สลด "เด็กหญิงวัย 10 ขวบ" เสียชีวิตในรีสอร์ท คาดฝีมือพ่อแท้ๆ เร่งล่าตัวด่วน

10 เมษายน 2567

สลดพบร่างเด็กหญิงวัย 10 ขวบ เสียชีวิตในรีสอร์ทดังอุตรดิตถ์ ตำรวจสอบสวนคาดเป็นฝีมือพ่อแท้ๆ ตำรวจเร่งล่าตัวด่วน

  เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์  จากกรณีที่ พ.ต.ท.พีรพล จำนงค์จิตร สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจาก วิทยุ 191 ว่า ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ท่าเสา อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีผู้เสียชีวิตจากการถูกฆาตกรรม จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ไกรสิทธิ  พรหมปฏิมา ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ทราบ รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัยและแพทย์เวร รพ.อุตรดิตถ์ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดอุตรดิตถ์  

ในจุดเกิดเหตุ พบร่าง ด.ญ.นภัส อายุประมาณ 10 ขวบ ปัจจุบันอาศัยอยู่ ถนนราษฎร์บำรุง ต.ศรีพนมมาศ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เสียชีวิตอยู่ในห้องพัก 

ร่างของเด็กหญิงอยู่ในสภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นและกางเกงขาสั้นรูปการ์ตูนสีแดงขาว พบบาดแผลถูกของมีคมที่ข้อมือซ้าย 1 แผล มีเลือดไหลออกมาเปื้อนผ้าห่ม ในที่เกิดเหตุพบมีดปอกผลไม้ 1 เล่ม วางอยู่ที่โต๊ะหัวเตียงในห้องพัก 


จากการสอบสวนเบื้องต้นได้ความว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2567 เวลา 22:30 น. ได้มี นายสิทธานันท์ อายุ 25 ปี (พ่อผู้เสียชีวิต) มาเปิดห้องพักที่โรงแรมรีสอร์ท แห่งหนึ่งเกิดเหตุ โดยมาพร้อมกับ ด.ญ.นภัส ต่อมาวันที่ 9 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 10:00 น. นายสิทธานันท์ ได้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากโรงแรมไปคนเดียว 

สลด เด็กหญิงวัย 10 ขวบ เสียชีวิตในรีสอร์ท คาดฝีมือพ่อแท้ๆ เร่งล่าตัวด่วน

 ต่อมาเวลาประมาณ 12:00 น. หมดเวลาเข้าพัก แม่บ้านของโรงแรมจึงได้ไปเรียก เพื่อให้เช็คเอ๊าท์ แต่ห้องล็อคไม่มีคนตอบรับ จึงได้แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ จนพบศพ ด.ญ.นภัส เสียชีวิตภายในห้องดังกล่าว 

เบื้องต้นสันนิษฐานว่า นายสิทธานันท์ น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุในครั้งนี้ แต่ต้องให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน รวบรวมพยานหลักฐานที่เกิดเหตุให้แน่ชัดว่า ใครเป็คนลงมือก่อเหตุ แต่ก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เร่งติดตามตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

สลด เด็กหญิงวัย 10 ขวบ เสียชีวิตในรีสอร์ท คาดฝีมือพ่อแท้ๆ เร่งล่าตัวด่วน


ต่อมาได้แจ้งแพทย์ รพ.อุตรดิตถ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพ สันนิษฐานว่า ด.ญ.นภัส เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-12 ชั่วโมง และแจ้งให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.อุตรดิตถ์ มาตรวจสถานที่เกิดเหตุและเก็บพยานวัตถุในที่เกิดเหตุไว้แล้วเพื่อหาตัวคนร้าย และนำตัวมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งรายงานล่าสุดพบว่ายังจับตัว นายสิทธานันท์ ไม่ได้