"นักธุรกิจโคราช" หย่าแล้ว หลังเมียหอบลูกหนี ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อ-แม่

12 มีนาคม 2567

สาวอดีตว่าที่ผู้สมัคร สส.โคราช หย่ากับสามีนักธุรกิจแล้ว "ปวีณา" เป็นคนกลาง จากนี้ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อและแม่ ฝ่ายหญิงมีสิทธิปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 28 ก.พ.67 ที่ผ่านมา อดีตว่าที่ผู้สมัครสาว สส.นครราชสีมา พาลูกสาว 5 ขวบ เข้าขอความช่วยเหลือจาก นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า ถูกสามีนักธุรกิจทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ต้องการจะใช้ชีวิตร่วมกับฝ่ายชายอีก โดยยืนยันต้องการหย่าขาดและมีสิทธิในการปกครองบุตร

นักธุรกิจโคราช หย่าแล้ว หลังเมียหอบลูกหนี ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อและแม่

 

ขณะที่ฝ่ายชายได้พาพ่อแม่เดินทางจากเมืองโคราช มาพูดคุยเพื่อขอคืนดีแต่ตกลงกันไม่ได้ ต่อมาวันที่ 7 มี.ค.67 นางปวีณา ได้ประสาน ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช เข้าให้การช่วยเหลือ น.ส.ใหม่ ในเรื่องการเอาผิดฐานทำร้ายร่างกายกับสามี และเจรจาหาทางออก โดยได้มีการประชุมร่วมกันที่มูลนิธิปวีณาฯ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ปทุมธานี พ่อสามี พร้อมด้วย ฝ่ายชาย และทนายความฝ่ายชาย แต่ยังตกลงกันไม่ได้เนื่องจากฝ่ายหญิงต้องการหย่าขาด

นักธุรกิจโคราช หย่าแล้ว หลังเมียหอบลูกหนี ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อและแม่

แต่ฝ่ายชายจะขอกลับให้ไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวอีกครั้ง ซึ่งทางทนายอนันต์ชัย ได้ให้เวลา 7 วันเพื่อทั้งสองฝ่ายจะได้ตัดสินใจก่อนจะมีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย   


 

ล่าสุดเมื่อวันที่ 11มี.ค.67 ที่ผ่านมาที่ว่าการอำเภอธัญบุรี จ.ปทุมธานี น.ส.ใหม่ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี และสามีนักธุรกิจ ทั้งคู่ได้ตกลงมาหย่ากันด้วยความสมัครใจ โดยมี นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ และนายรณกร เผ่าวิจารณ์ นายอำเภอธัญบุรี เป็นสักขีพยาน ซึ่งทั้งคู่ได้มีการทำบันทึกข้อตกลง ให้มารดามีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว โดยบิดาสามารถรับไปอยู่ด้วยได้ตามโอกาส และพฤติกรรมที่เหมาะสม และนำบุตรมาส่งคืนแก่มารดา 
นักธุรกิจโคราช หย่าแล้ว หลังเมียหอบลูกหนี ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อและแม่
สำหรับข้อตกลงเรื่องทรัพย์สิน ฝ่ายชายจะยกรถเบนซ์ที่เป็นชื่อของฝ่ายชายซึ่งยังผ่อนชำระอยู่ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของฝ่ายหญิงเมื่อผ่อนชำระครบตามกำหนด โดยจากนี้ฝ่ายหญิงสามารถนำไปใช้ได้เปรียบเสมือนเป็นรถของฝ่ายหญิง ส่วนหนี้สินฝ่ายชายจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวโดยฝ่ายหญิงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

 

ทั้งนี้ฝ่ายชายจะจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตรเดือนละ 40,000 บาท โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม 67 จนกว่าบุตรจะเรียนจบปริญญาตรี สำหรับข้อตกลงอื่นๆ ถ้าฝ่ายชายประพฤติดีฝ่ายหญิงจะพิจารณาอีกครั้งอาจมีโอกาสที่จะกลับมาอยู่กินกันฉันสามีภรรยาได้อีก โดยมีเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ ปทุมธานี มาเป็นพยาน 

นางปวีณากล่าวว่า ตลอดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.-11 มี.ค.67 เป็นเวลา 12 วันที่น.ส.ใหม่ ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้รับน.ส.ใหม่ และลูกสาวอยู่ในความดูแลของมูลนิธิ โดยมีความประสงค์จะหย่ากับสามี จนในวันนี้ตกลงกันได้ด้วยดี จึงนัดหมายกันมาจดทะเบียนหย่าที่อำเภอธัญบุรี

นักธุรกิจโคราช หย่าแล้ว หลังเมียหอบลูกหนี ต่างคนต่างทำหน้าที่พ่อและแม่

โดยลูกอยู่ในความปกครองของ น.ส.ใหม่ โดยบิดาสามารถรับไปอยู่ด้วยได้ตามโอกาสฯ ทั้งสองคนยังเป็นทั้งพ่อและแม่ที่ดีของลูกตลอดไป จากนี้น้องใหม่จะพาลูกกลับไปอยู่กับแม่ที่นครราชสีมา ขอบคุณ ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ที่มาช่วยเจรจา และขอบคุณ นายรณกร เผ่าวิจารณ์ นายอำเภอธัญบุรี ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานครั้งนี้ด้วย