สุดหดหู่ ข้อความสุดท้าย นุ ส่งหา ซัน หลัง ทนายวัฒนา พูดเรื่องครอบครองปรปักษ์

27 กุมภาพันธ์ 2567

เปิดข้อความสุดท้าย "คุณนุ ภานุมาศ" ส่งหา "คุณซัน" หลานอากู๋ หลัง ทนายวัฒนา พูดเรื่องครอบครองปรปักษ์ได้ บอกเลยสุดยิ่งหดหู่

เรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่หลายคนจับตากันอย่างต่อเนื่อง กรณีการเสียชีวิตของ นุ ภานุมาศ คู่กรณีฟ้องครอบครองปรปักษ์ของบ้านอากู๋เหม ซึ่งมีรายงานว่าประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนที่นุจะเสียชีวิต นุได้ส่งข้อความมาหาซัน และ มาย เจ้าของบ้าน โดยทนายเดชาเผยว่า การตายของ นุ อาจจะเกิดจากการที่ทนายวัฒนา ทนายของนุ ภานุมาศ ยุยงให้ทางนุฟ้องครอบครองปรปักษ์ ทั้งที่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะเจรจาไกล่เกลี่ยกันสำเร็จ

สุดหดหู่ ข้อความสุดท้าย นุ ส่งหา ซัน หลัง ทนายวัฒนา พูดเรื่องครอบครองปรปักษ์

โดยทาง ทวิตเตอร์ Redskull ได้มีการย้อนคลิปของ วัฒนา เรืองแก้ว ทนายความของเพื่อนบ้านที่ฟ้องครอบครองปรปักษ์ ที่มาร่วมตอบคำถามในรายการ คลายทุกข์ประชาชน ทางช่อง MVTV Channel ซึ่งทางทนายวัฒนาเคยพูดว่า ที่ดินมีราคาสูง ภาษีก็จะสูง และหากเราทิ้งร้างที่ดินไว้เกิน 10 ปี และมีคนมาอยู่และเจตนาครอบครองเอาเป็นของตัวเอง ก็ให้คนนั้นยื่นครอบครองปรปักษ์ได้ และการครอบครองปรปักษ์ ไม่จำเป็นต้องยื่นครอบครองอย่างสุจริต

คำว่า "ปรปักษ์" คือ ปรปักษ์ต่อความเป็นเจ้าของของผู้อื่น ซึ่งการครอบครองปรปักษ์อย่างสุจริตนั้น คือเคสเช่น เราซื้อที่ดิน จ่ายเงินให้เจ้าของที่ดินแล้ว แต่เจ้าของที่ดินไม่ยอมโอนที่ดินให้และปล่อยให้เราอยู่บนที่ดินนั้น จนครบ 10 ปี และหากเจ้าของที่มีชื่อหลังโฉนดที่ดินจะมาขับไล่เมื่อไร ก็ให้คนที่อยู่ที่ดินตรงนั้น ยกข้ออ้างเรื่องการครอบครองปรปักษ์ขึ้นอ้าง ไปร้องขอต่อศาลได้

สุดหดหู่ ข้อความสุดท้าย นุ ส่งหา ซัน หลัง ทนายวัฒนา พูดเรื่องครอบครองปรปักษ์

และอีกกรณีคือ ครอบครองอย่างไม่สุจริต คือ เจ้าของที่ดินปล่อยที่ดินทิ้งร้าง ไม่มาดูแล เมื่อครบ 10 ปี คนที่อยู่บนที่ดินสามารถร้องขอครอบครองปรปักษ์ ก็ได้ทันทีโดยผลของกฎหมาย การไปร้องต่อศาลก็เพื่อศาลมีคำสั่งยืนยันกรรมสิทธิ์ และจากนั้นก็นำคำสั่งศาลไปสำนักงานที่ดิน เพื่อให้เปลี่ยนแปลงชื่อหลังโฉนด และสมบูรณ์แบบตามกฎหมาย แต่หากอยู่ไม่ครบ 10 ปี ก็สามารถต่อสู้ในชั้นศาลได้ มุมมองคนนอกอาจจะมองว่า คนที่มายึดที่คนอื่นไม่มีคุณธรรม ไม่ศีลธรรม แต่กฎหมายมันมีอยู่ ตนพูดหลายครั้ง ถ้ากฎหมายนี้มันไม่ดี ก็ไปรวมตัวกันยื่นต่อ สส. เพื่อคัดค้านกฎหมายนี้

สุดหดหู่ ข้อความสุดท้าย นุ ส่งหา ซัน หลัง ทนายวัฒนา พูดเรื่องครอบครองปรปักษ์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ทางฝั่งของทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของซัน หลานอากู๋ และอากู๋ เจ้าของบ้านที่ถูกเพื่อนบ้านบุกรุก ครอบครองปรปักษ์ ได้ตั้งโต๊ะแถลง พร้อมจี้ทนายความของอีกฝ่ายรับผิดชอบหลังแนะให้สู้คดี พร้อมเปิดข้อความแชทสุดท้ายที่ผู้ตายส่งให้ทนายเดชา ยังได้นำบทสนทนาระหว่าง น.ส.ภานุมาศ ผู้เสียชีวิต และ อากู๋ เจ้าของบ้าน มาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน ระหว่างแถลงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยในคลิปดังกล่าว อากู๋ กล่าวว่า  "การเจรจามันต้องให้เกียรติกัน แล้วจริงๆมันจะไม่เลยเถิด ถ้าไม่ไปแจ้งปรปักษ์"

 

สุดหดหู่ ข้อความสุดท้าย นุ ส่งหา ซัน หลัง ทนายวัฒนา พูดเรื่องครอบครองปรปักษ์

น.ส.ภานุมาศ ยังกล่าวในคลิปว่า คนมักจะมาแนะนำเราว่า ทำแบบนี้สิ มันเกินคดีความไปแล้ว เราครอบครองมา 13 ปีแล้ว ต้องทำแบบนี้เราถึงชนะ เราต้องบอกว่า เราไม่เป็นตัวของตัวเองเลยและตนก็ได้คุยกับทนาย กราบเท้าเขาเลย และบอกว่าเราไม่อยากทำแล้ว มันไม่ใช่เจตนาของตนตั้งแต่แรก พี่สาวของตน เข้าไปดูแลบ้านนี้ให้จริง ๆ เข้าไปทำนู่นทำนี่ มีอะไรก็ปรึกษาว่าหลังคามันรั่ว

โดยก่อนที่คุณนุจะตาย ยังได้ส่งแชทมาหาอายเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ว่า "ยังไงก็คิดว่าทำบุญให้คนป่วยแบบพี่ด้วยนะคะ" ซึ่งทางคุณอายไม่ได้ตอบ เพราะทางคุณอายและคุณซันยังโกรธที่มีการบุกรุกรอบ 2 และคุณนุยังมีการส่งข้อความไปให้ทนายความในสำนักงานของทนายเดชา

สุดหดหู่ ข้อความสุดท้าย นุ ส่งหา ซัน หลัง ทนายวัฒนา พูดเรื่องครอบครองปรปักษ์

นอกจากนี้ นายเอ๋ พลกฤต สามีของนุ ยังได้ส่งข้อความมาหาคุณซัน และมีการกล่าวขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น คุณพลกฤตพยายามขอเข้ามาพูดคุยเรื่องการถอนฟ้องปรปักษ์ โดยให้คุณศรีพรรณและทนายความไปถอนฟ้อง ซึ่งทางคุณซันมองว่าเรื่องนี้มันอยู่ในชั้นศาลแล้ว และคุณซันเองก็ยังคงโกรธเพราะว่าเหตุการณ์มันต่อเนื่อง แต่อย่างไรเราก็อโหสิกรรมอยู่แล้ว

 

ก่อนหน้านี้ ทางฝั่งคุณนุบอกว่าอยากถอนฟ้องปรปักษ์ และจะถอนก่อนที่จะเจรจาเมื่อตรวจสอบก็พบว่ายังไม่มีการถอนฟ้องแต่อย่างใด