เปิดมูลเหตุจูงใจ 5 เยาวชน รุมทำร้ายหญิงเร่ร่อนสติไม่ดี ก่อนพบศพในสระน้ำ

15 มกราคม 2567

รับไม่ได้ เปิดมูลเหตุจูงใจเบื้องต้น 5 เยาวชนรุมทำร้ายหญิงเร่ร่อนสติไม่ดีสลบ ก่อนพบศพในสระน้ำข้างโรงเรียน สระแก้ว

 สืบเนื่องจากกรณีที่ 5 เยาวชนรุมทำร้ายหญิงเร่ร่อนสติไม่ดีจนสลบ ก่อนนำร่างโยนทิ้งสระน้ำข้างโรงเรียน ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ซึ่งตอนแรก ลุงเปี๊ยก สามีผู้เสียชีวิตเป็นคนยอมรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุ ก่อนที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดถึงทราบว่าผู้ร้ายแท้จริงคือ 5 เยาวชนที่หัวโจกเป็นลูกนายตำรวจ อายุเพียงแค่ 16 ปีเท่านั้น  

เปิดมูลเหตุจูงใจ 5 เยาวชน รุมทำร้ายหญิงเร่ร่อนสติไม่ดี ก่อนพบศพในสระน้ำ


เบื้องต้นพบว่า เยาวชนทั้ง 5 คนนั้นไล่เรียงอายุได้ตั้งแต่ 13 - 16 ปี ประกอบด้วย 1. นายบิ๊ก อายุ 16 ปี , 2. ด.ช.โก๊ะ อายุ 14 ปี , 3.ด.ช.เชน อายุ 14 ปี , 4.ด.ช.กัส อายุ 13 ปี และ 5. ด.ช.แบงค์ อายุ 13 ปี 

และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพยานหลักฐานดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จึงสืบสวนจนทราบชื่อ และนามสกุล ที่อยู่ของเด็กวัยรุ่นผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวทั้งหมดมาที่ สภ.อรัญประเทศ เพื่อซักถามข้อมูลเบื้องต้น ต่อหน้าผู้ปกครองเยาวชนทั้งหมด 

เปิดมูลเหตุจูงใจ 5 เยาวชน รุมทำร้ายหญิงเร่ร่อนสติไม่ดี ก่อนพบศพในสระน้ำ

 จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.อรัญประเทศฯได้ไปนำตัวเยาวชนชายทั้งหมดจำนวน 5 คน มาทำการสอบสวนเบื้องต้นแล้ว โดยพบว่าหัวโจกกลุ่มวัยรุ่น มี 2 คน อายุ 16 ปี เป็นลูกตำรวจในพื้นที่ แต่เนื่องจากทั้ง 5 คนยังเป็นเยาวชน ต้องรอไปสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพ ที่ สำนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 15 ม.ค.67
 

ส่วนกรณี นายปัญญา หรือ ลุงเปี๊ยก สามี น.ส.บัวผัน ที่รับสารภาพว่าได้ทำร้ายร่างกายเมียจนเสียชีวิตแล้วนำศพไปโยนทิ้งบ่อน้ำนั้น ขณะนี้ทาง ตำรวจสภ.อรัญประเทศฯได้ส่งทีมเข้าไปสอบสวนเพิ่มเติมนายปัญญาเพิ่มเติม ในเรือนจำจังหวัดสระแก้วแล้ว เพื่อหาข้อเท็จจริงว่าได้ก่อเหตุจริงหรือไม่ และทำไมถึงได้รับสารภาพ และไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำไม 

เปิดมูลเหตุจูงใจ 5 เยาวชน รุมทำร้ายหญิงเร่ร่อนสติไม่ดี ก่อนพบศพในสระน้ำ

ทั้งนี้ เยาวชนทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุ ทำร้าย น.ส.บัวผัน หรือ ป้ากบ หญิงเร่ร่อนสติไม่ดี ที่เป็นผู้เสียชีวิตจริง โดยมูลเหตุในการกระทำในครั้งนี้ วัยรุ่นทั้ง 5 คน ให้การว่า ทำไปเพราะตามเพื่อน

ขอบคุณภาพจาก มูลนิธิกู้ภัยอรัญประเทศ