อาม่า ร้องสายไหมต้องรอด โดนคนชื่อ-สกุล เดียวกัน สวมสิทธินำที่ดินขายทอดตลาด

06 มกราคม 2567

อาม่าร้องสายไหมต้องรอด ถูกคนชื่อ-สกุลเดียวกัน สวมสิทธิ นำที่ดินขายทอดตลาด จนที่ดินถูกขายเปลี่ยนมือไปแล้วหลายรอบ

อาม่าร้องสายไหมต้องรอด ถูกคนชื่อสกุลเดียวกันสวมสิทธิ นำที่ดินขายทอดตลาด จนที่ดินถูกขายเปลี่ยนมือ   โดยนางสาวปัทมา แซ่เตียว อายุ 75 ปี อาชีพค้าขาย พร้อมด้วยนางสาวชลิตา จุฑาวนิชกุล หลานสาว อายุ 28 ปี นำเอกสารหลักฐานเป็นโฉนดที่ดิน 1 แปลง ขนาด 1 ไร่ ในตำบลบ้านใหม่ อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังกรมบังคับคดียึดที่ดินขายทอดตลาดผิดแปลง

อาม่าร้องสายไหมต้องรอด ถูกคนชื่อ-สกุลเดียวกัน สวมสิทธิ นำที่ดินขายทอดตลาด จนที่ดินถูกขายเปลี่ยนมือไปแล้วหลายรอบ

โดยนางสาวปัทมา เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาจะต้องได้เอกสารเรียกเก็บภาษีที่ดินทุกปี โดยเสียภาษีที่ดินครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 จากนั้นก็ไม่ได้เอกสารการเรียกเก็บภาษีที่ดินอีกเลย จึงคิดว่า ภาครัฐยกเว้นการเก็บภาษีที่ดิน ในช่วงปี 2563-2565 เนื่องจากมีสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด -19  ก่อนที่ช่วงกุมภาพันธุ์ 2566 ได้ไปสอบถามที่กรมที่ดินที่จังหวัดนนทบุรี เพื่อขอชำระภาษีบำรุงท้องที่ แต่เจ้าหน้าที่กรมที่ดินตรวจสอบในระบบว่า  ที่ดินแปลงดังกล่าว ถูกขายทอดตลาดไปแล้วตั้งแต่ปี 2558 ทั้งที่ในปี 2562 ก็ยังจ่ายภาษีที่ดินแปลงนี้ตามปกติ อีกทั้งเจ้าหน้าที่กรมที่ดินที่ให้ข้อมูล เป็นเจ้าหน้าที่คนเดียวกันกับที่ทำธุรกรรมขั้นตอนการขายทอดตลาด 

 นางสาวชลิตา หลานสาวให้ข้อมูลว่า เมื่อทราบเรื่องตกใจว่า ที่ดินแปลงนี้ถูกขายทอดตลาดได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าของที่ดินคือ คุณย่า ไม่เคยยินยอมให้ซื้อขาย ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่า คุณย่า เคยไปก่อเหตุขับรถชนคนเมื่อปี 2558  หรือ 10 ปีก่อน ซึ่งผู้ที่ถูกรถชนมีการฟ้องร้อง และต้องจ่ายเงินชดใช้ 400,000 บาท แต่คุณย่า ยืนยันไม่เคยขับรถชนใคร แต่พอตรวจสอบก็พบว่า ผู้ที่ขับรถชนนั้นเป็นคนละคน แต่ชื่อปัทมา และมีนามสกุลจีนแซ่เตียวเหมือนกัน แต่เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก และถิ่นที่อยู่ตามทะเบียนบ้านไม่เหมือนกัน 

อาม่าร้องสายไหมต้องรอด ถูกคนชื่อ-สกุลเดียวกัน สวมสิทธิ นำที่ดินขายทอดตลาด จนที่ดินถูกขายเปลี่ยนมือไปแล้วหลายรอบ

เมื่อทนายฝั่งผู้ถูกรถชน นำชื่อนามสกุลไปสืบทรัพย์ ก็พบที่ดินของคุณย่า แล้วนำไปขายทอดตลาดได้ 900,000 บาท ก่อนจะนำเงิน 400,000 บาท ชดใช้เยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือ 500,000 บาท นางปัทมาที่ไม่ใช่เจ้าของที่ดินตัวจริง มอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปรับเงินมาจากกรมบังคับคดี หลังจากนั้นไม่นานก็เสียชีวิต 

ซึ่งหลังจากเกิดเรื่อง ได้ฟ้องร้องต่อศาลยุติธรรมเพื่อให้มีคำสั่งยกเลิกคำสั่งบังคับคดีขายทอดตลาด พร้อมทั้งเนียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับผิดชอบและเยียวยา จากการทำหน้าที่ผิดพลาด เนื่องจากที่ดินผืนดังกล่าว ปัจจุบันถูกขายเปลี่ยนมือมาหลายรอบแล้ว และราคาประเมินปัจจุบันสูงถึงไร่ละ 3.5 ล้านบาท

อาม่าร้องสายไหมต้องรอด ถูกคนชื่อ-สกุลเดียวกัน สวมสิทธิ นำที่ดินขายทอดตลาด จนที่ดินถูกขายเปลี่ยนมือไปแล้วหลายรอบ

โดยในสัปดาห์หน้านายเอกภพ เตรียมพานางสาวปัทมา และนางสาวขลิตาหลานสาว เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้กำกับดูแลกรมที่ดิน