งานเข้า "ทนายดัง" ถูกร้องสอบมรรยาท หลังเป็นทนายให้ อ.น้องไนซ์

งานเข้า ทนายดัง ถูกกลุ่มต่อต้านร้องสภาทนายความตรวจสอบมรรยาทการเป็นทนายความ หลังมาเป็นทนายของอาจารย์น้องไนซ์
จากกรณีประเด็นร้อน "อาจารย์น้องไนซ์" เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากขณะนี้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กลุ่มปกป้องอ.น้องไนซ์ ได้ปะทะโดต้กันเดือดกับกลุ่มต่อต้าน ขณะเข้ายื่นหนังสือแถลงข้อเท็จจริงและขอรับความคุ้มครองเยาวชน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 20 ธ.ค.66 เวลา 14.00 น. ที่สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ บางเขน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้ นายนิยม นพรัตน์ หรือ เค สามถุยส์ และ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือ ต้นอ้อ เพจเป็นหนึ่ง เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อยื่นหนังสือสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อให้ตรวจสอบมรรยาทการเป็นทนายความของอาจารย์น้องไนซ์
โดย นายแทนคุณ เปิดเผยว่า วันนี้พวกเรามาในฐานะผู้เสียหายจากประเด็นที่มีการไปตรวจสอบในกรณีเด็กคนหนึ่งถูกอ้างว่าบรรลุอภิญญาระดับสูง มีความเป็นเทพเทวาต่างๆ เราเองก็มีความสนใจและเกิดข้อสัยว่าอภิญญาดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่ และมีขบวนการที่จะไปใช้ประโยชน์กับการกล่าวอ้างนี้อย่างไร ซึ่งอาจจะเข้าข่าย พรบ.คุ้มครองเด็กปี2546 มาตรา 26(4)(5)(6) ว่าด้วยเรื่องจูงใจส่งเสริมให้เด็กมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือไม่
เราทำหน้าที่ในฐานะประชาชน ไม่ได้มีการกล่าวหาหรือคุกคามใดๆ หากเด็กมีความรู้ความเข้าใจทางธรรมะจริง ส่งเสริมให้คนนั่งทำสมาธิปัสนาได้จริงก็คงเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามีการบิดเบือนในหลักคำสอนก็ถือว่าเป็นหน้าที่หลักของชาวพุทธทุกคนที่ต้องหาคำตอบ และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ควรที่จะถูกตรวจสอบหรือสามารถตอบคำถามต่อสังคม
แต่กลับปรากฏว่าเกิดสิ่งที่พวกเราไม่สบายใจและได้รับผลกระทบ มีผู้ที่มีความรู้ทางกฏหมายแต่กลับตีความกฎหมายในลักษณะที่ไปกระทบต่อการใช้ชีวิตของเราทั้ง 3 ซึ่งมีการโพสว่าไปแจ้งความแล้วซึ่งเท่าที่ดูก็พบว่าที่อยู่เขาอยู่ในกรุงเทพฯ แต่กลับเดินทางหรือมอบอำนาจให้คนไปแจ้งความที่ต่างจังหวัด เช่นชลบุรี เชียงใหม่ ส่วนนี้มองได้ว่ามีเจตนาที่อาจจะไม่ต้องการเรียกร้องความเป็นธรรม แต่มีเจตนาให้พวกเราได้รับผลกระทบหากมีการเรียกเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งอาจจะไม่ไม่เป็นธรรมกับพวกเราที่ใช้สิทธิ์ในการทดสอบหรือวิพากษ์วิจารณ์ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะอย่างตรงไปตรงมา
ยืนยันไม่ได้มีอคติ ไม่มีความเกลียดชัง หรือเจตนาที่จะทำร้ายเด็ก ครอบครัว หรือแม้แต่ทนายคนนี้ แต่ต้องการตรวจสอบผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการนำเด็กมาแสวงหาผลประโยชน์ โดยใช้พรบ.คุ้มครองเด็กมาควบคุม
และอยากให้ติดตามดูพฤติการณ์ของบุคคลดังกล่าวว่าได้สร้างความเดือดร้อนหรือช่วยเหลือปกป้องผู้ที่ไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบกับเด็กและเยาวชนหรือไม่ ช่วยสร้างความเข้าใจตามหลักพระพุทธศาสนาและไม่บิดเบือน
ด้าน เค สามถุยส์ เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่ได้สงสัยในตัวเด็ก แต่สงสัยตัวบุคคลที่สร้างความเสียหายให้กับเด็ก โดยการอ้างอิงข้อมูลว่าน้องไนซ์ตอนเด็กเห็นสิ่งลี้ลับต่างๆเพื่อสร้างตัวตนให้เป็นศาสดาองค์ใหม่ เดิมเคยพูดว่าไม่มีผลประโยขน์ แต่เรากลับไปพบว่ามีการเรียกรับเงินเพื่อค่าเข้าคอร์สอบรม พอเราออกมาพูดกลับเอาเรื่องพรบ.คุ้มครองเด็กเข้ามาเพื่อปิดปากไม่ให้พูดเพราะเป็นการไม่ละเมิดเด็ก แต่เรากำลังมองว่าสิ่งที่พวกเราออกมาพูดนั้นเป็นการปกป้องเด็ก ที่จะถูกนำเด็กไปใช้บังหน้าเพื่อทำมาหากินหรือไม่
เช่นเดียวกับน.ส.ชลิดา เปิดเผยว่า ทนายคนดังกล่าวเข้ามาแสดงความคิดเห็นในขณะที่ตนเองไลฟ์สด ในลักษณะคุกคาม ทำให้ตนเองรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย กับสิ่งที่ตนเองกำลังทำงานเพื่อประชาชนแต่กลับต้องมาถูกคนที่มีความรู้ด้านกฎหมายมาฟ้องซึ่งมองว่าไม่ได้เป็นธรรมกับพวกเรา
อย่างไรก็ตาม นายสมพร ดำพริก นายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย เปิดเผยว่า ทางสภาทนายความฯจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา ส่วนกรอบระยะเวลา หากเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจก็ถือเป็นการเร่งด่วน เบื้องต้นจะมีการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบและใช้เวลาไม่นาน ส่วนโทษสูงสุดของมรรยาททนายความคือลบชื่อ พักชื่อไปไม่น้อยกว่า 5 ปี แล้วแต่กรณี หากหมดคดีความก็สามารถมาขอขึ้นทะเบียนกับสภาทนายความได้ใหม่ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการว่าจะมีการเห็นชอบให้กลับมาเป็นทนายความหรือไม่

เหลือเชื่อ เรื่องราวของจระเข้ที่ใหญ่ที่สุด คุณอาจไม่เคยรู้

เพจดังตั้งคำถาม ข้าวไข่ดาว 65 บาท ในยุคนี้ถูกหรือเเพง ชาวเน็ตถกเสียงแตก

เผยค่ารักษา "นักบินหนุ่ม" พร้อมเหตุผลขอรับบริจาค หลังป่วยมะเร็ง

คนละครึ่ง 2568 โฉมใหม่ เน้นเที่ยววันธรรมดา เริ่ม มิ.ย. 68
