รวบแล้ว! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3 ราย หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญเงินกว่า 2.5 ล้าน

27 ตุลาคม 2566

ตร. สืบนครบาลรวบแล้ว แก๊งคอลเซ็นเตอร์บัญชีม้า 3 ราย "ใหม่คลองท่อม หนึ่งมวกเหล็ก ก้อยเชียงราย" หลังหลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญเงินกว่า 2.5 ล้าน

 สืบเนื่องจากกรณีที่มีข่าว แก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกคุณยายวัย 82 ปี ให้โอนเงินรวมกว่า 20 ครั้ง สูญเงินกว่า 2,580,000 ล้านบาท ล่าสุดพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รรท. รอง ผบ.ตร. มีนโยบายให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก  โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ระดมกำลังสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับใน 11 ราย ในกรณีเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ร่วมกันหลอกคุณยายวัย 82 ปี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา

 

รวบแล้ว! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3 ราย หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญเงินกว่า 2.5 ล้าน

 

โดยเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566  

  • พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. 
  • พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. 
  • พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น 
  • พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย 
  • พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก สส.ฯ
  • พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.ฯรรท.ผกก.3 บก.สส.บช.น. 
  • พ.ต.อ.วิชิต  ถิรขจรวงศ์ ผกก.1 บก.สส.บช.น. 
  • พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข  ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. 
  • พ.ต.อ.จักราวุธ  คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯบก.สส.บช.น.
  • พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ

 
 ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุม แก๊งคอลเซ็นเตอร์บัญชีม้า จำนวน 3 ราย ได้แก่ 

1.นางสาวจิราวรรณ สายวิเศษ หรือ ใหม่ คลองท่อม   อายุ 35 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.991/2566  ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2566

2.นายมานะ เรืองฤทธิ์ หรือ หนึ่งมวกเหล็ก อายุ 22 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.993/2566 ลงวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2566

3.น.ส.กัญญารัตน์ เพชรรักษ์ หรือ ก้อยเชียงราย อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.994/66 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2566

 

รวบแล้ว! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3 ราย หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญเงินกว่า 2.5 ล้าน

 

ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตน ว่าเป็นคนอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบ คอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนและปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
 

รวบแล้ว! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 3 ราย หลอกยายวัย 82 โอนเงิน สูญเงินกว่า 2.5 ล้าน

 

ผู้ต้องหาที่ 1 ปฏิเสธว่าไม่ทราบถึงการหลอกลวงที่ปรากฎในพฤติการณ์ในคดี แต่ให้การรับสารภาพว่า เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2566 ได้มีเพื่อนได้มาชักชวนให้ตนเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย ไม่ทราบหมายเลขบัญชีให้เพื่อนคนดังกล่าวใช้ โดยให้เงินเป็นค่าเช่าบัญชีเดือนละ 700 บาท โดยปัจจุบันผู้ต้องหาได้รับเงินค่าตอบแทนดังกล่าวแล้วจำนวน 2,100 บาท และไม่สามารถติดต่อเพื่อนคนดังกล่าวได้อีก

ผู้ต้องหาที่ 2  ให้การปฏิเสธ โดยกล่าวว่าเมื่อประมาณต้นเดือนกันยายน 2566 ได้เปิดบัญชีธนาคารเกียรตินาคินภัทร ทางออนไลน์ ด้วยโทรศัพท์มือถือ และผู้ต้องหาได้เปิดบัญชีธนาคารอื่นๆ อีกหลายบัญชีต่อมา ตนได้ทำโทรศัพท์มือถือ OPPO หายที่บ้านของป้า ม.4 ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี  ซึ่งโทรศัพท์ได้ทำการผูกบัญชีธนาคารไว้ และรหัสแอปพลิเคชั่นธนาคารได้ถ่ายรูปเก็บไว้ในโทรศัพท์ ไม่ทราบว่าผู้ใดนำไปใช้ต่อหรือใช้ในการกระทำความผิด

ผู้ต้องหาที่ 3 ให้การรับว่าได้รับจ้างเปิดบัญชีให้กับบุคคลที่ทักมาทางช่องทางเฟซบุ๊ก ตั้งแต่เมื่อประมาณปี 2565 ซึ่งตนนั้นจำได้ไม่แน่ชัด โดยบัญชีดังกล่าวที่ถูกนำมาใช้ในการกระทำความผิดนั้นตนนั้นได้ไปทำการเปิดเมื่อประมาณ เดือนกรกฎาคม 2565 เป็นบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงเทพ ไม่สามารถจำเลขบัญชีได้ พร้อมบัตรเอทีเอ็ม รวมจำนวน 2 บัญชี ได้ค่าจ้างเปิดบัญชีบัญชีละ 15,000 บาท โดยเมื่อเปิดบัญชีแล้ว ผู้ว่าจ้างได้แจ้งว่าให้ส่งสมุดบัญชีพร้อมบัตรเอทีเอ็มไปให้ที่ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี โดยตนนั้นได้ส่งผ่านขนส่งเอกชน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ทางด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนว่าในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพมีเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมายหลายรูปแบบ ขอให้ประชาชนได้โปรดใช้สติในการใช้ชีวิตในสังคม อย่าหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย อีกทั้งแจ้งเตือนให้ระมัดระวังการถูกหลอกให้เปิดบัญชีม้า อย่าให้บัญชีธนาคารหรือเปิดบัญชีให้บุคคลอื่นนำไปใช้เด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นช่องทางให้คนร้ายนำบัญชีไปใช้ในการก่ออาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมอย่างมหาศาล ตลอดจนโทษกรณีการเปิดบัญชีม้า ณ ปัจจุบัน มีอัตราโทษหนัก คือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ(บัญชีม้าหากไม่แน่ใจหรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ