ตำรวจทำบุญให้เหยื่อ "ไอซ์ หีบเหล็ก" ส่งหีบเผาเมรุให้เป็นกุศล หลังครบ 4 ปี

06 ตุลาคม 2566

ตำรวจโรงพักเพชรเกษมทำบุญให้เหยื่อ ส่งหีบเหล็ก สวดบังสุกุลเพื่อทำบุญให้กับผู้เสียชีวิตและเผาที่เมรุวัดม่วง หลังครบรอบ 4 ปีคดีไอซ์ หีบเหล็ก

จากกรณีวันที่ 6 ต.ค. พ.ต.อ.ดร.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจ สน.เพชรเกษม จัดพิธีฌาปณกิจและบังสุกุล ให้กับ น.ส.กุ๊กกิ๊ก อายุ 22 ปี ผู้เสียชีวิต ในคดี นายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือ "ไอซ์หีบเหล็ก" อายุ 40 ปี ตั้งแต่เมื่อช่วงวันที่ 4 - 6 สิงหาคม 2562  ที่เมรุวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63

 

ตำรวจทำบุญให้เหยื่อ "ไอซ์ หีบเหล็ก" ส่งหีบเผาเมรุให้เป็นกุศล หลังครบ 4 ปี

โดยเจ้าหน้าที่อรินทราช 26 และชุดคลี่คลายคดีนำกำลังบุกเข้าจับกุมผู้ต้องหาและขุดพบศพ ได้เมื่อช่วงต้นเดือน มกราคม 2563 ทั้งนี้สามารถยึดของกลางเป็นอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เครื่องกระสุน และหีบเหล็กซึ่งใช้สำหรับใส่ฟิล์มภาพยนตร์ ที่พบในบ้านมาเป็นของกลาง ประกอบสำนวนคดี

ตำรวจทำบุญให้เหยื่อ "ไอซ์ หีบเหล็ก" ส่งหีบเผาเมรุให้เป็นกุศล หลังครบ 4 ปี

นายอภิชัย หรือไอซ์ ได้ก่อเหตุหน่วงเหนี่ยวกักขัง นางสาววรินทร์ธรณ์ หรือกุ๊กกิ๊ก ผู้ตาย ไว้ในห้องพัก ก่อนฆ่าผู้ตายโดยทรมานหรือโดยกระทำจนถึงแก่ความตาย

ต่อมานายไอซ์ กับพวกร่วมกันขุดหลุม และฝังศพผู้ตายเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตายและเป็นการทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ โดยไม่มีเหตุอันสมควร

ซึ่งต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไว้ได้พร้องของกลางในคดี ประกอบด้วยเสื้อผ้า และทรัพย์สินของผู้ตาย อยู่ภายในหีบเหล็ก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้เป็นของกลางในคดี และเก็บไว้บริเวณห้องว่างชั้น 4 สน.เพชรเกษม กระทั่งศาลอาญาธนบุรี สั่งตัดสินจำคุกตลอดชีวิต "ไอซ์ หีบเหล็ก"  และให้ริบทรัพย์สินที่บรรจุอยู่ภายในหีบเหล็กดังกล่าวซึ่งประกอบด้วย เสื้อผ้า และทรัพย์สินของผู้ตาย ซึ่งได้เก็บไว้เป็นเวลานานภายในห้องร้างดังกล่าว 

ตำรวจทำบุญให้เหยื่อ "ไอซ์ หีบเหล็ก" ส่งหีบเผาเมรุให้เป็นกุศล หลังครบ 4 ปี

และเนื่องจาก พ.ต.อ.ดร.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม ได้มีการปรับปรุงห้องร้างดังกล่าวเป็นศูนย์ควบคุมสั่งการ (CCOC) และจะเปิดทำการในวันที่ 17 ตุลาคม 2566 ซึ่งตรงกับวันตำรวจจึงได้ ร่วมกันกับข้าราชการตำรวจทุกนายในโรงพัก นิมนต์พระสงฆ์มาสวดมนต์บริเวณห้องขั้น 4 และเคลื่อนย้ายหีบเหล็กไปทำพิธีฌาปณกิจ

 

พร้อมทั้งสวดบังสุกุลเพื่อทำบุญให้กับผู้เสียชีวิต ที่ เมรุวัดม่วง โดยมีพระพิพัฒน์ศาสนธำรง เจ้าอาวาสวัดม่วงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ตาย โดยได้ขออนุมัติทำลายของกลางจากผู้บังคับบัญชาถูกต้องตามขั้นตอน หลังจากที่ศาลมีคำสั่งริบ โดยหลังจากนี้ จะรายงานผล การดำเนินงานทั้งหมดให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้นต่อไป