สืบเนื่องจากการที่ "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล" รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และกรมขนส่งทางบก จับกุม "นายเสถียร เรืองสมุทร" อายุ 38 ปี และ "นายศริสร สุทธิเจต" อายุ 44 ปี ขบวนการลอบเจาะระบบขนส่งทางบก แก้ไขข้อมูลสวมทะเบียนรถ
เพื่อให้ข้อมูลในระบบ MDM ของกรมการขนส่งทางบก ตรงกับข้อมูลรถที่ครอบครอง และข้อมูลในเล่มทะเบียนรถ ก่อนออกเล่มทะเบียนใหม่ เพื่อนำไปขายต่อให้กับกลุ่มนิยมสะสมรถเก่า รถโบราณ ในราคาเล่มละ 5 แสนบาท ถึง 3 ล้านบาท และได้ขยายผลไปยังบรรดาผู้ซื้อและครอบครองรถยนต์ทั้ง 65 คัน มูลค่า 77 ล้านบาท
ซึ่งหนึ่งในทะเบียนรถของกลางที่ยึดมาได้นั้น ตรวจพบว่ามีพระเอกดัง "มาริโอ้ เมาเร่อ" เป็นเจ้าของทะเบียนรถ Benz G300 สีขาว ตร.สอท.จึงได้ออกหมายเรียกให้ "มาริโอ้" เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมืองทองธานี
เพื่อให้ข้อมูลในระบบ MDM ของกรมการขนส่งทางบก ตรงกับข้อมูลรถที่ครอบครอง และข้อมูลในเล่มทะเบียนรถ ก่อนออกเล่มทะเบียนใหม่ เพื่อนำไปขายต่อให้กับกลุ่มนิยมสะสมรถเก่า รถโบราณ ในราคาเล่มละ 5 แสนบาท ถึง 3 ล้านบาท และได้ขยายผลไปยังบรรดาผู้ซื้อและครอบครองรถยนต์ทั้ง 65 คัน มูลค่า 77 ล้านบาท
ซึ่งหนึ่งในทะเบียนรถของกลางที่ยึดมาได้นั้น ตรวจพบว่ามีพระเอกดัง "มาริโอ้ เมาเร่อ" เป็นเจ้าของทะเบียนรถ Benz G300 สีขาว ตร.สอท.จึงได้ออกหมายเรียกให้ "มาริโอ้" เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมืองทองธานี
ล่าสุดวันนี้ เวลา 11.00 น. พระเอกหนุ่ม "มาริโอ้" พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนคดีสวมทะเบียนรถ ตามหมายเรียก เพื่อเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน โดยเดินหลบหน้าสื่อมวลชนที่มารอทำข่าวผ่านทางชั้นใต้ดิน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ในการสอบปากคำ หากย้อนไปก่อนหน้านี้ มาริโอ้ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ชี้แจงความบริสุทธิ์ใจ ถึงกรณีดังกล่าวว่า
"ผมมีชื่อเป็นเจ้าของทะเบียนรถจริง แต่ตัวรถที่ทำสัญญาซื้อ ยังไม่ได้ครอบครอง เนื่องจากทางรุ่นพี่ที่เป็นคนติดต่อขายรถให้กับผมนั้น ติดปัญหาอะไรบ้างอย่าง ทำให้รถมาไม่ถึง และรุ่นพี่ได้คืนเงินค่าเสียหายทั้งหมดแล้ว ตนจึงเป็นผู้เสียหาย ไม่ได้เป็นผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ก็ได้เรียกสอบปากคำในฐานะพยาน"