สอบปากคำล่าสุด ทนายพัช ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลุยฟ้องแหลกตำรวจยันสื่อมวลชน

26 พฤษภาคม 2566

ผลสอบปากคำ"ทนายพัช"ทนายความแอม ไซยาไนด์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้การแย้งในประเด็นต่าง ๆ ฟ้องหมิ่นฯสื่อมวลชนบางสำนัก


    26ต.ค.66 "ทนายพัช"ทนายของ"แอม ไซยาไนด์"สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมและชิงทรัพย์ ยืนยันไม่เกี่ยวข้องกับข้อหาร่วมกันทำลายพยานหลักฐาน หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่กองปราบฯ ในวันนี้ ยืนยันเป็นทนายหลักในคดีให้ผู้ต้องหา เตรียมพิจารณาฟ้องตำรวจ และสื่อมวลชน อีกเพียบ

  "ทนายพัช" พร้อม นายไชยา คุ้มอ่ำ "กลุ่มทนายใจดี"ทนายความที่ปรึกษากฎหมายของทนายพัช ออกมาเปิดเผยหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบปราม กว่า 2 ช.ม. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาว่า ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันว่าไม่เห็นหรือเกี่ยวข้องกับ ทรัพย์สินของนางสาวก้อย ผู้เสียชีวิตในคดีนี้ เป็นการทำหน้าที่ของทนายความโดยสุจริตตามกระบวนการกฎหมาย ทำงานด้วยความโปร่งใส ไม่ได้ให้คำแนะนำใด ๆ กับนางแอมให้ส่งกระเป๋าให้นางสาวแก้ว

สอบปากคำล่าสุด ทนายพัช ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลุยฟ้องแหลกตำรวจยันสื่อมวลชน


  โดยนายไชยา เผยว่าการออกหมายเรียกทนายพัชให้มารับทราบข้อกล่าวหา เชื่อว่าเป็นการเตะตัดขากัน ให้พุ่งเป้าไปที่ทนายพัช และพยายามตัดสิทธิ์ไม่ให้ทนายพัชเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ จึงอยากขอโอกาสให้ทนายพัชเข้าไปช่วยเหลือลูกความอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นสิทธิ์ของลูกความที่จะเลือกทนายเข้ามาช่วยเหลือคดี

สอบปากคำล่าสุด ทนายพัช ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลุยฟ้องแหลกตำรวจยันสื่อมวลชน

  ด้าน ทนายพัช ยืนยันว่าตนเองไม่เคยส่งกระเป๋าให้นางสาวแก้วและไม่เคยให้คำแนะนำใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งที่ผ่านมาตนไม่เคยใช้และไม่เคยรู้จักกระเป๋าแบรนด์เนมเลย ซึ่งข้อกล่าวหานี้เป็นการซัดทอดมาจากผู้ต้องหาคนอื่น (ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นนายอ๊อฟอดีตสามีนางสาวแอม) ซึ่งไม่ทราบว่ามีเหตุผลอะไรที่ซัดทอดมาถึงตนเอง

สอบปากคำล่าสุด ทนายพัช ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลุยฟ้องแหลกตำรวจยันสื่อมวลชน

   ส่วนประเด็นที่ว่าเคยรู้จักนางสาวแก้วมาก่อนหน้านี้หรือไม่ ทนายพัชปฏิเสธตอบคำถามกับสื่อมวลชน ขอไปตอบในสำนวน และตอนนี้ยืนยันว่าตอนนี้ตนเองยังเป็นทนายความหลักให้นางแอมอยู่ ส่วนจะมีทนายความคนไหนเข้ามาช่วยเหลือเรื่องคดีด้วยก็สามารถทำได้ เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่สามารถแต่งตั้งทนายความคนอื่นเพิ่มได้ แต่ต้องสอดคล้องกับทนายหลัก และทนายหลักต้องยินยอม ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่ามีทนายความคนอื่นได้เข้าไปขอคัดสำนวนและขอเข้าไปพบนางแอมหลายครั้งและเบิกตัวมาขึ้นศาล ซึ่งทนายคนดังกล่าวไม่ได้ขอมาทำงานร่วมด้วย แต่ตนขอไม่พาดพิงถึง 

สอบปากคำล่าสุด ทนายพัช ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลุยฟ้องแหลกตำรวจยันสื่อมวลชน


  ส่วนประเด็นที่ว่านางสาวแอมจะมีการฟ้องหมิ่นประมาทบุคคลต่าง ๆ ทั้งพิธีกรและสื่อมวลชน ทนายพัชเผยว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างหารือกับกลุ่มทนายใจดี แต่ยืนยันว่าขณะนี้เตรียมจะฟ้องร้องอย่างแน่นอน ซึ่งตนยืนยันว่าการทำหน้าที่ของทนายความมีหน้าที่ไปศาล ไม่ใช่มีหน้าที่ไปออกสื่อ การฟ้องร้องตำรวจ นอกจากมาตรา 157 แล้ว จะใช้มาตราใหม่คือ พ.ร.บ.อุ้มหาย เข้ามาเพิ่มเติม

  • ส่วนทนายพัชเองก็จะมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาทกับสื่อมวลชนบางสำนักด้วย ยืนยันไม่กังวลในประเด็นที่ พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะใช้ทนายความคนอื่นมาช่วยคดีที่นางสาวแอมและตนจะฟ้อง

 

ส่วนกระสังคมที่โจมตีตนเองในประเด็นต่าง ๆ มองว่าเป็นการทำคดีสวนกระแสสังคม เป็นปกติที่คนจะมองว่าตนเป็นคนไม่ดี แต่ยืนยันว่าไม่กังวลและสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ / และในสัปดาห์หน้าตนจะเข้าพบนางสาวแอมอีกครั้งเพื่อสอบถามแนวทางการดำเนินคดีเพิ่มเติม

สอบปากคำล่าสุด ทนายพัช ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลุยฟ้องแหลกตำรวจยันสื่อมวลชน

ด้าน พ.ต.อ. เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยว่าเบื้องต้นจากการสอบปากคำทนายพัช เจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และให้การแย้งในประเด็นต่าง ๆ ที่พนักงานสอบสวนสงสัย ซึ่งทำให้การต่าง ๆ ค่อนข้างขัดแย้งกับข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่สามารถหักล้างประเด็นต่าง ๆ ในคดีได้ 

 

ทั้งนี้ยืนยันว่าพยานหลักฐานที่ใช้ดำเนินคดีกับทนายพัช มีความชัดเจนว่าผู้ต้องหามีพฤติการณ์เกินกว่าการเป็นทนายความและเกินกว่าขอบเขตตามมันยากทนายความของสภาทนายความ จึงถือว่าเป็นการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับการทำลายพยานหลักฐาน

สอบปากคำล่าสุด ทนายพัช ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ลุยฟ้องแหลกตำรวจยันสื่อมวลชน

  ทั้งนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าบุคคลที่ให้ปากคำซัดทอดมาถึงตัวทนายพัช แต่ยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวมั่นใจในคำให้การและตำรวจสามารถสืบสวนสอบสวนจนหาพยานหลักฐานมายืนยันคำให้การดังกล่าวได้ และถึงแม้แอม ไซยาไนด์ จะให้การพลิกไปพลิกมาในแต่ละครั้งที่มีการสอบปากคำ ก็จะยิ่งเป็นผลเสียต่อตัวผู้ต้องหาเอง เพราะจะทำให้คำให้การของผู้ต้องหาเสียน้ำหนักทางรูปคดีและทำให้ศาลไม่เกิดความเชื่อถือ 

 

ส่วนกรณีที่ทนายความของแอม แสดงความมั่นใจว่า แอมไซยาไนด์ จะออกมาแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาความผิดเกี่ยวกับตามพรบ 157 และกฎหมายใหม่ที่เพิ่งถูกประกาศใช้ หรืออาจจะหลุดคดีใดคดีหนึ่งที่ตำรวจแจ้งข้อหา เรื่องนี้ยืนยันว่าเป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาสามารถทำได้และเป็นสิทธิ์ของตำรวจที่จะไปต่อสู้คดีในชั้นศาล