สุดารัตน์ เผยแล้ว MOUร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล มีเรื่องแก้ ม.112 หรือไม่

19 พฤษภาคม 2566

คุณหญิงสุดารัตน์ เผย MOU ร่วมรัฐบาลก้าวไกล ไร้เงื่อนไข แก้ ม.112 ย้ำจุดยืนไทยสร้างไท ไม่มีนโยบายหรือแนวคิด ยกเลิกหรือแก้ไข มาตรา 112


    19พ.ค.66 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย พร้อมน.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำ พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ย่านสีลมเดินตลาดละลายทรัพย์ ซึ่งได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น หลังพบปะพ่อค้าแม่ขายพี่น้องประชาชนได้ยืนยันถึงแนวทางการร่วมรัฐบาลของพรรคไทยสร้างไทย ว่าพรรคไทยสร้างไทย มุ่งมั่นที่จะ ดูแลพี่น้องประชาชนทุกช่วงวัยตั้งแต่เกิดจนแก่ โดยเฉพาะการปลดปล่อยและสร้างพลังให้กับคนไทย 


ซึ่งมีหลายนโยบายที่พร้อมจะ นำเสนอ เพื่อให้ นโยบายที่ได้ประกาศไว้ต่อประชาชน ถูกผลักดันให้สำเร็จเป็นรูปธรรม เช่นบำนาญประชาชน 3,000 บาท ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับสังคมสูงวัยช่วยให้ผู้สูงวัยอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีรายได้เพียงพอต่อการยังชีพ ลดภาระลูกหลาน ลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข การรักษาพยาบาลปีละหลายแสนล้านบาท และที่สำคัญจะเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ

สุดารัตน์ เผยแล้ว MOUร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล มีเรื่องแก้ ม.112 หรือไม่

นอกจากนี้จะนำเสนอเรื่องการพักใช้ใบอนุมัติอนุญาตที่เป็นอุปสรรคต่อการทำมาหากินของประชาชน ประมาณ 1,400 ฉบับไว้ชั่วคราว 3-5 ปี เพื่อให้ ผู้ประกอบการพ่อค้าแม่ขาย คนตัวเล็ก สามารถลุกขึ้นมาทำมาหากินได้ทันที ซึ่งกฎหมายฉบับนี้พรรคไทยสร้างไทย ได้นำเสนอเข้าสู่สภาแล้ว


คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ในบันทึกความเข้าใจร่วมกัน ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ที่พรรคก้าวไกลส่งให้ พรรคต่างๆได้นำไปศึกษา และเพิ่มเติมข้อเสนอนั้น ไม่มีเรื่องของการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

สุดารัตน์ เผยแล้ว MOUร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล มีเรื่องแก้ ม.112 หรือไม่


โดยจุดยืนของพรรคไทยสร้างไทย ชัดเจนว่าไม่มีนโยบายหรือแนวคิด ที่จะยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 

สุดารัตน์ เผยแล้ว MOUร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล มีเรื่องแก้ ม.112 หรือไม่

ไทยสร้างไทยเห็นว่าปัญหาความเดือดร้อนเรื่องเศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข โดยเฉพาะการเพิ่มพลังและปลดปล่อยให้คนไทยสามารถทำมาหากินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว 

สุดารัตน์ เผยแล้ว MOUร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับก้าวไกล มีเรื่องแก้ ม.112 หรือไม่

สำหรับการโหวตนายก พรรคไทยสร้างไทย ได้ประกาศเป็นสัญญาประชาคมไปแล้วว่าจะสนับสนุนพรรคการเมือง ที่ได้ลำดับที่ 1 เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และสนับสนุนนายพิธาลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี