หัวหน้าวงหมอลำชื่อดัง ชี้แจงปม รถทัวร์ชนเด็ก 15 ดับ ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ
หัวหน้าวงหมอลำชื่อดัง ชี้แจงปม รถทัวร์ของวงชนเด็ก 15 ดับ ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจหรือคืดหนี พร้อมเยียวยาเต็มที่
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้ออกมาเปิดประเด็น รถทัวร์ของคณะหมอลำชน เด็กอายุ 15 ปี เสียชีวิต พร้อมทั้งยังโพสต์ภาพซากรถจักรยานยนต์ที่ติดอยู่ใต้รถทัวร์ โดยมีข้อความว่า "ฝากรีทวิตฯ ด้วยนะคะ รถทัวร์ผ่าไฟแดงชนเด็กอายุ 15 ปี และเสียชีวิตค่ะ สันนิษฐานว่าคนขับอาจจะหลับในเพราะชนแล้วลากยาวเกือบ 1 กิโล #รถทัวร์ชื่อดังผ่าไฟแดงชนเด็กอายุ15" ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์และรีทวีตกันมากมาย
ต่อมาทางด้านเฟซบุ๊กเพจ หมอลำประถมบันเทิงศิลป์ เผยว่า หมอลำประถมบันเทิงศิลป์ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง กับครอบครัวของน้อง และขอเป็นกำลังใจให้กับทางครอบครัวน้อง ทางเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ขอแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและครอบครัวน้อง กับเหตุการณ์อุบัติเหตุครั้งนี้ให้เกิดความเป็นธรรมกับครอบครัวผู้สูญเสียครั้งนี้ ตอนนี้ทางผู้บริหารวงก็ได้กำลังเดินทางไปร่วมแสดงความอาลัยและพร้อมเริ่มที่จะเยียวยาแล้ว
ในคลิป หัวหน้าวงหมอลำคณะประถมบันเทิงศิลป์ ยังได้เผยอีกว่า "ก่อนอื่นต้องเสียงความเสียใจกับพ่อแม่ครอบครัวของน้องผู้เสียชีวิต เมื่อวานนี้ พวกตนไม่ได้ปิดข่าวแต่อย่างใด แต่เรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว เป็นธรรมดาที่จะตกใจ ที่จริงแล้วจะเข้าไปหาครอบครัวเขาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ทางร้อยเวรบอกว่าอย่าเพิ่ง ตนจึงไม่ได้ทำอะไร รอวันนี้เพื่อให้อารมณ์ของทางนั้นเย็นลง และต้องไปทำงานต่อที่ศรีสะเกษ จึงตั้งใจว่าจะเข้าไปหาและไปพูดคุยเจรจา เพื่อแสดงความเสียใจ
ยอมรับผิดว่าช้าไปในเรื่องนี้ ที่ไม่ได้โพสต์บอกให้ทางครอบครัวทราบ คนเลยเอาไปตีโพยตีพาย ซึ่งการรับผิดชอบนั้น ทางคณะฯก็ใช่ว่าจะไม่เคยมีประสบการณ์ เพราะเกิดอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นเรื่องความรับผิดชอบ ตนไม่หนีแน่นอน เพราะครอบครัวเขามีคนเสียชีวิตทั้งคน ต้องเข้าไปดูแลเยียวยา จะหนีไม่ได้ ส่วนที่ผิดก็ต้องค่อยว่ากันอีกครั้งหนึ่ง จึงอยากบอกกล่าวให้พี่น้องแฟนๆไม่ไปพูดต่อ เพราะหมอลำนั้นต้องอยู่กับแฟนๆ หากทำไม่ดี หรือทำผิดก็จะไม่มีใครชอบ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องเข้าไปรับผิดชอบดูแลครอบครัวผู้สูญเสียอยู่แล้ว
เรื่องที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มีเจตนาอย่างแน่นอน เพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ส่วนที่บอกว่ามีการลากกันนั้นไม่เป็นความจริง เพราะน้องก็ยังอยู่ตรงสี่แยกเช่นเดิม มีคนเป็นพยานเห็นเหตุการณ์ เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจว่าไม่ได้หนี หรือปิดข่าว เพียงแต่มาช้าไปเท่านั้น จึงมาเพื่อมาบอกกล่าวว่าเราก็เป็นคนเช่นเดียวกัน พร้อมทำทุกวิถีทางที่พอจะช่วยคนสูญเสียไป"
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews