ค้นหาผู้สูญหาย "เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด" เสียชีวิตเพิ่ม เจอชิ้นส่วนมนุษย์

18 มกราคม 2566

เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด ในอู่ต่อเรือ จ.สมุทรสงคราม พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก เร่งค้นหาผู้สูญหายต่อเนื่อง แต่เจอชิ้นส่วนมนุษย์

คืบหน้าจากเหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด ซึ่งแรงระเบิดทำให้บ้านที่อยู่ใกล้เคียงโดนแรงอัดจนได้รับความเสียหาย และเสียงยังดังไกลเป็นรัศมีหลาย 10 กิโลเมตร จากการสอบถามต้นกลเรือบรรทุกน้ำมันดังกล่าว ทราบว่า มีน้ำมันอยู่ในเรือจำนวนมาก โดยเป็นน้ำมันที่เก็บในเรือประมาณ 80,000 ลิตร และน้ำมันที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงของเรืออีก 20,000 ลิตร

เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด พบเสียชีวิตเพิ่ม ค้นหาผู้สูญหายเจอชิ้นส่วนมนุษย์

 

ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า มีผู้บาดเจ็บ 4 คนคือ นายวินเท นายอ่าว ชาวเมียนมา นายยาซา ชาวมอญ และ นายสมพงษ์ ใจวิถี อายุ 35 ปี ส่วนรายชื่อผู้สูญหาย 6 คน คือ มีคนไทย 1 คนคือ นายวิเชียร บุญเลิศ ส่วนที่เหลืออีก 5 เป็นชาวเมียนมา สำหรับผู้เสียชีวิตตรวจสอบแล้วคือ นายทุย ชาวเมียนมา คือหนึ่งในผู้สูญหาย ขาขวาขาด กระเด็นไปไกล 500 เมตร นำศพขึ้นที่วัดปากสมุทร พบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย สภาพดำเป็นตอตะโกอยู่ภายในเรือ ยังไม่สามารถยืนยันตัวตนได้

เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด พบเสียชีวิตเพิ่ม ค้นหาผู้สูญหายเจอชิ้นส่วนมนุษย์

 ล่าสุดช่วงเช้าวันที่ 18 ม.ค.2566 เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายมูลนิธิได้ค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตามแผนการจะมุ่งเน้นการปูพรมทั่วแม่น้ำแม่กลอง ทั้งบริเวณใกล้จุดเกิดเหตุระเบิดแ ละบริเวณโดยรอบใกล้เคียง รัศมี 3 กิโลเมตร และอีกชุดบริเวณปากอ่าวแม่กลอง รวมทั้งแผนการดำน้ำค้นหาผู้สูญหายด้วย

 

 และเมื่อเวลา 09.10 น. เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย คือ อาโก ชาวเมียนมา นำศพขึ้นที่ท่าท้ำวัดปากสมุทร โดย นายพลเสฏฐ์ เลาหกรรณวนิช หัวหน้าชุดปฏิบัติการกู้ภัย มูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม กล่าวว่า ยืนยันมีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นายทุย และ นายอาโก ชาวเมียนมา และอีกรายยังไม่ระบุตัวตน

เรือบรรทุกน้ำมันระเบิด พบเสียชีวิตเพิ่ม ค้นหาผู้สูญหายเจอชิ้นส่วนมนุษย์


ส่วนผู้สูญหาย 5 ราย และได้รับบาดเจ็บ 4 ราย มีรายงานข่าวว่า เจ้าที่กู้ภัยพบข้อเท้าขวา 1 ชิ้น เป็นชิ้นส่วนมนุษย์ แต่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นศพหรือไม่ ส่วนบรรยากาศหน้าท่าเรือแห่งนี้มีการปิดพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้า โดยมี รปภ.ดูแลอย่างเข้มงวด

 

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews