รวบแล้ว 3 ราย แก๊งหลอกเด็กม.3 ดูโฆษณา ก่อนชวนลงทุนหมดตัว จนคิดสั้น

11 มกราคม 2566

ตำรวจรวบ 3 ราย แก๊งหลอกเด็กม.3 ดูโฆษณา ก่อนชวนลงทุนสินค้าออนไลน์จนหมดตัว เขียนจนหมายลาขอโทษพ่อแม่ก่อนคิดสั้น

จากกรณีเหตุสลดเด็กนักเรียนม.3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด ที่ผูกคอใต้ต้นไม้ดับ พร้อมเขียนจดหมายลาขอโทษพ่อแม่ หลังถูกคนร้ายชักชวนให้ดู โฆษณาผ่าน YouTube เพื่อหารายได้พิเศษ  ก่อนที่จะออกอุบายหลอกให้ลงทุนซื้อสินค้า 10 ชิ้น วางขายออนไลน์เก็งกำไร โดยอ้างว่าจะได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าจน เหยื่อหลงเชื่อฉกเงินแม่โอนไปให้ต่อเนื่องรวม 14,000 บาท ภายหลังเด็กคนดังกล่าวรู้ตัวว่าจะถูกหลอกจึงของทวงเงินคืนแต่คนร้ายก็ไม่ยอมโอนเงินให้จึงก่อเหตุสลดขึ้น 

 รวบแล้ว 3 ราย แก๊งหลอกเด็กม.3 ดูโฆษณา ก่อนชวนลงทุนหมดตัวจนคิดสั้น

โดยผู้ปกครองของนักเรียนผู้เสียชีวิตรายดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. และชุดทำงานเพื่อร้องขอความเป็นธรรมให้เร่งรัดคดี ก่อนที่ในวันนี้ทางบช.สอท. ได้เปิดปฎิบัติการดีเดย์ตัดบัญชีม้า จับกุมน.ส.นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ได้ที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

 รวบแล้ว 3 ราย แก๊งหลอกเด็กม.3 ดูโฆษณา ก่อนชวนลงทุนหมดตัวจนคิดสั้น

คืบหน้าล่าสุดหน้ากรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ม.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.วริศร์สิริภ์ ลีละสิริ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต.กานตพงศ์ ชัยรุ่งเรือง ผบก.ตอท. และชุดคลี่คลายคดีสอบปากคำ น.ส. นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี โดยใช้เวลาการสอบปากคำนานกว่า 2 ชม.

 

 

ก่อนที่ทางพล.ต.ต.วิวัฒน์ เปิดเผยว่า ภายหลังวานนี้ทางพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. ได้ประชุมเร่งรัดคดีให้ทางบช.สอท. ดำเนินการสืบสวนจับกุม โดยทางบช.สอท. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลจังหวัดนนทบุรีออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการซึ่งเป็นบัญชีม้าจำนวน8 ราย ในฐานความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันโดยทุจริตหรือหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและได้ปฎิบัติการจับกุมตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาโดยจับกุมได้ 3 ราย ประกอบไปด้วย 

น.ส.นภาพร หอมจันทร์ อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 12/2566 ลง 10 ม.ค. โดยจับได้ที่จ.พระนครศรีอยุธยา 
นายสมบูรณ์ พงษ์เทเวช 55 ปี ตามหมายจับศาลจังหวันนทบุรีที่ 17 /2566 ลง 10 ม.ค. จับได้ที่จ.นครสวรรค์ 
และน.ส.พบพร วงศ์แข อายุ 28 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 14/2566 ลง 10 ม.ค.  โดยจับกุมได้ที่จ.ปราจีนบุรี 

รองผบช.สอท. กล่าวว่า จากการสอบปากคำในรายของ น.ส.นภาพร หอมจันทร์ ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้เปิดบัญชีม้าที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ โดยได้รับการชักชวนว่าจ้างเปิดบัญชีในราคา 100 บาท อีกทั้งตรวจสอบประวัติยังพบว่าเคยถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนเมื่อปี 2559 คดีความผิดพรบ.การพนันปี 2561-2563 อีกทั้งเมื่อตรวจสอบในบัญชีที่ตำรวจตรวจยึดได้พบว่ามีการโอนเข้าออกไปยังเว็บไซต์พนันออนไลน์ ซึ่งผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมเล่นพนันออนไลน์ทุกวัน นอกจากนี้คนร้ายได้มีการออกอุบายหลอกล่อจะให้ส่วนแบ่งกับทางให้บัญชีม้าด้วย แต่เนื่องจากบัญชีเพิ่งมีการเปิดไม่ถึงเดือน ส่วนจะได้จริงหรือไม่จริงอันนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

พล.ต.ต.วิวัฒน์ กล่าวว่า จากแผนประทุษกรรมของคนร้ายเจ้าหน้าที่สามารถแยกระดับของบัญชีม้าออกเป็น8ระดับในจำนวนนี้พบว่ามีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีร่วมเปิดบัญชีม้าด้วย

ซึ่งทางบช.สอท. ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงิน ในการร่วมตรวจสอบถึงแม้ว่าคนร้ายสั่งใช้วิธีการยักย้ายถ่ายเทภายในระยะเวลารวดเร็วจากบัญชีที่หนึ่งไปยังบัญชีที่ห้าไม่ถึง 39 วินาทีก่อนที่จะโอนไปยังบัญชีของพ่อค้าเงินสกุลดิจิตอล ทำให้ตอนนี้ทราบโครงข่ายของขบวนการดังกล่าวแล้ว จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามแม้ไอพีแอดเดรสของคนร้ายการตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน แต่เรา ได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการทาง Instagram Facebook แล้วก็ LINE ในการดำเนินการตรวจสอบ

ถึงแม้ว่าคนร้ายอาจจะอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านทางเราก็จะดำเนินการออกหมายแดงเพื่อทำการติดตามจับกุม อย่างไรก็ตามคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถอายัดเงินได้ทันท่วงที ซึ่งสามารถอายัดเงินได้ 5 หมื่นบาท 

 รวบแล้ว 3 ราย แก๊งหลอกเด็กม.3 ดูโฆษณา ก่อนชวนลงทุนหมดตัวจนคิดสั้น

กรณีดังกล่าวทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับกับชุดทำงานไปทำงานอย่างเต็มที่ให้ทำตามคำมั่นของนักเรียนชั้นม.3 ได้สั่งเสียไว้ ว่าตำรวจจะดำเนินการจับกุมอย่างเต็มความสามารถกวาดล้างทั้งขบวนการ  

นอกจากนี้ทางนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้ให้ความสนใจกำชับให้ชุดทำงานจับกุมเป็นกรณีตัวอย่าง ให้จับกุมถึงตัวการใหญ่ไม่ใช่จับแค่บัญชีม้า อย่างไรก็ตามในส่วนของตัวการใหญ่

ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชี Instagram ต้องยอมรับว่า คนร้ายมีความเชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์มีการปกปิดตัวตนโปรไฟล์เป็นอย่างดีแต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วคาดว่าไม่เกินสองวัน จะสามารถดำเนินการออกหมายจับและจับกุมตัวได้ภายในสัปดาห์นี้

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews