จากกรณีว่อนข่าวลือทั่วโลกออนไลน์ว่า วันที่ 25 ธ.ค. 65 นี้ เป็นต้นไป จะไม่มีไฟฟ้า น้ำ อาหาร สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์ เพราะอาจเกิด "พายุสุริยะ" ล่าสุดทางสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวแล้วและชี้แจงว่า
ข้อความดังกล่าวในประเด็นของพายุสุริยะระดับรุนแรงในช่วงวันที่ 25 ธันวาคมนั้นอาจเป็นไปได้ว่ามีที่มาจากข่าว พายุสุริยะ ในช่วงคริสมาสต์ที่เผยแพร่เมื่อปี 2564 (คลิกเพื่ออ่านข่าว) พายุสุริยะนั้นสามารถเกิดขึ้นได้
แต่มักจะเกิดขึ้นหลังจากได้รับรายงานการตรวจพบ “เปลวสุริยะ” ของดวงอาทิตย์ ซึ่งจากนั้นอีกระยะเวลาหนึ่งจึงจะเกิดพายุสุริยะตามมา ทั้งนี้ ไม่สามารถทำนายการเกิดล่วงหน้าได้เป็นเดือน ๆ ซึ่งล่าสุดพบว่ามีรายงานการตรวจพบเปลวสุริยะ จากองค์กรบรรยากาศและสมุทรศาสตร์แห่งสหรัฐฯ National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา (earthsky.org) และไม่ได้แจ้งเตือนว่าจะเกิดผลกระทบรุนแรงแต่อย่างใด
“เปลวสุริยะ” เกิดจากการระเบิดครั้งใหญ่บนดวงอาทิตย์ มักสอดคล้องกับจุดดับและการปลดปล่อยมวลโคโรนา (Coronal Mass Ejection – CME) โดยอนุภาคมีประจุบนดวงอาทิตย์จะถูกปลดปล่อยออกมา
และหากอนุภาคเหล่านี้ปะทะเข้ากับโลก จะส่งผลต่อการรบกวนสนามแม่เหล็กของโลก เกิดเป็นพายุสุริยะ (geomagnetic storm) ได้ กรณีพายุสุริยะรบกวนสนามแม่เหล็กของโลก อาจส่งผลต่อระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าบนโลก
ซึ่งหากรุนแรงมากอาจทำให้เกิดไฟฟ้าดับ หรือเกิดความแปรปรวนในการจ่ายไฟฟ้าได้ แต่เนื่องจากการชนเข้ากับชั้นบรรยากาศนี้เกิดในระดับความสูงที่สูงจากพื้นโลกเป็นอย่างมาก จึงไม่มีผลต่อระบบสื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์ และอินเตอร์เน็ต รวมถึงไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ที่อาศัยบนพื้นโลก แต่จะสามารถสังเกตเห็นได้เป็น “ปรากฏการณ์แสงเหนือ” หรือ “ออโรรา” นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ทั้งการรบกวนระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าและปรากฏการณ์แสงเหนือนั้น มักเกิดขึ้นเฉพาะพื้นที่ประเทศในบริเวณละติจูดสูง ๆ เมื่อมีพายุสุริยะที่ระดับความรุนแรงมากขึ้น ก็อาจจะส่งผลถึงผู้สังเกตที่อยู่บริเวณละติจูดต่ำลงไปได้ ดังเช่นเหตุการณ์ Carrington Event ที่ถูกบันทึกเอาไว้ในปี ค.ศ. 1859 ผู้สังเกตอยู่บริเวณใกล้แถบศูนย์สูตรก็ยังสามารถสังเกตเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือได้
สำหรับผลกระทบอื่น ๆ เช่น ดาวเทียมที่โคจรอยู่รอบโลก ปัจจุบันดาวเทียมมีการออกแบบบระบบสำรองไว้รองรับในกรณีดังกล่าว หากเกิดพายุสุริยะที่รุนแรงมาก ๆ ผู้บังคับดาวเทียมทั่วโลกอาจปิดระบบบางส่วนชั่วคราว จนกว่าพายุสุริยะจะผ่านพ้นไป แต่ไม่ยาวนานขนาด 15 วันตามที่เป็นข่าว และนอกจากนี้ ในปัจจุบันเรายังไม่ได้มีหลักฐานที่บ่งชี้ถึงพายุสุริยะระดับรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในปลายปีนี้แต่อย่างใด
ขอบคุณข้อมูลจาก ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Tnews