อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เตือนดูแลบุตรหลานระวัง "โรคหัด"

19 ตุลาคม 2565

ช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว โดยเฉพาะช่วงนี้อากาศเย็นฉับพลันเตือนดูแลบุตรหลานระวัง "โรคหัด" เป็นโรคที่มากับอากาศหนาวและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษโดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก

อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงฉับพลันสู่สภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีฝน ย่อมส่งผลต่อสุขภาพได้ นอกจากโรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และปอดบวมแล้ว “โรคหัด” หรือโรคไข้ออกผื่น เป็นโรคที่มากับอากาศหนาวและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก

โรคหัด เกิดจากเชื้อไวรัส Measles ติดต่อและแพร่กระจายได้ง่ายผ่านเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ละอองอากาศ เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายโดยการไอ จาม และพูดคุยในระยะใกล้ชิด ผู้ป่วยโรคหัดจะมีเชื้อไวรัสหัด อาศัยอยู่ ในลำคอ สามารถแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้ 1-2 วัน ก่อนเริ่มมีผื่นขึ้น และอาจมีภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นได้ คือ คออักเสบ หลอดลมอักเสบจนถึงปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ ท้องเสีย และสมองอักเสบ ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงที่สุด

อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เตือนดูแลบุตรหลานระวัง "โรคหัด"

ปัจจุบันยังไม่มียารักษาจำเพาะ เป็นการรักษาตามอาการ ได้แก่ ให้ยาลดไข้ ให้สารน้ำและอาหารอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ การรับประทานวิตามินเอเสริมในผู้ป่วยโรคหัดจะสามารถช่วยลดภาวะแทรกซ้อนบางอย่างและลดอัตราการเสียชีวิตได้ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น คือ มีอาการไอมาก เสมหะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเขียวหรือหายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

ทั้งนี้ โรคหัดป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน ซึ่งปัจจุบันเป็นวัคซีนตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องฉีดให้เด็กทุกคน เข็มแรกที่อายุ 9-12 เดือน และให้ฉีดกระตุ้นอีกครั้งเมื่ออายุ 2 ปี 6 เดือน

อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เตือนดูแลบุตรหลานระวัง "โรคหัด"

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีสิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค สามารถรับบริการวัคซีนป้องกันหัด คางทูม หัดเยอรมัน (MMR) สำหรับเด็กไทยอายุ 9 เดือน – 2 ปี ทุกสิทธิการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อเข้ารับบริการที่หน่วยบริการ(สถานพยาบาล) ตามสิทธิการรักษาหรือสามารถติดต่อเข้ารับบริการที่หน่วยบริการ(สถานพยาบาล) ในระบบหลักประกันสุขภาพประเภทหน่วยบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค

อุณหภูมิเปลี่ยนแปลงฉับพลัน เตือนดูแลบุตรหลานระวัง "โรคหัด"