“รอง ผบ.ตร.” กำชับตำรวจจราจรทั่วประเทศ กวดขันมาตรฐานความปลอดภัยรถนักเรียน

02 กันยายน 2565

“รอง ผบ.ตร.” กำชับตำรวจจราจรทั่วประเทศ เร่งกวดขันมาตรฐานความปลอดภัยรถนักเรียน ให้ประสานสถานศึกษาป้องกัน พร้อมยกตัวอย่างแนวทางแก้ปัญหาการสูญเสียจากรถโรงเรียน

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศบจร.ตร.) เปิดเผยว่า จากกรณี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ใน อ.พานทอง จว.ชลบุรี ลืม น้องจีฮุน อายุ 7 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 ไว้ในรถตู้โรงเรียน จนเป็นเหตุให้เด็กเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 65 เวลาประมาณ 17.00 น. ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ กิจจาหาญ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี และ พ.ต.อ.เอนก บุตรอินทร์ ผกก.สภ.พานทอง ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างละเอียด

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า คดีนี้กระทบต่อความรู้สึกของผู้ปกครองทั่วประเทศ โดยเฉพาะพ่อแม่และญาติของผู้เสียชีวิต หากพบว่าเป็นการประมาทเลินเล่อของครู ก็จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งในข้อเท็จจริงพบว่า ในวันดังกล่าวช่วงเช้ารถโรงเรียนได้ไปรับนักเรียนตามปกติ มีเด็กขึ้นรถ 7 คน ชั้นประถมศึกษา 5 คน และชั้นอนุบาล อีก 2 มีครู 1 คน ทำหน้าที่เป็นพลขับ และอีก 1 คนเป็นครูดูแลเด็ก ส่วนของน้องจีฮุน นั่งอยู่เบาะแถว 3 ส่วนครูที่ดูแลนั่งอยู่แถวหลังสุด เมื่อรถตู้มาถึงโรงเรียน คุณครูที่ดูแลเด็กให้การว่าเดินลงจากรถก่อน จากนั้นได้ชะโงกเข้าไปดูเด็ก ไม่เห็นว่ามีใคร จึงได้ตะโกนบอกครูที่เป็นพลขับ เพื่อให้เลื่อนรถไปจอดในโรงรถ ต่อมาเวลา 16.30 น. หลังจากที่มานำรถเพื่อไปรับนักเรียนตามปกติ จึงได้พบว่าน้องจีฮุนเสียชีวิตแล้ว

“เรื่องนี้ได้กำชับให้ตำรวจจราจรทั้งในจังหวัดชลบุรี และทั่วประเทศเข้าไปประสานผู้บริหารโรงเรียนเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีต ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เคยประสานความร่วมมือกับสถานศึกษา เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันมาแล้วหลายครั้ง เช่น มาตรการเกี่ยวกับตัวรถ ต้องติดสติ๊กเกอร์คำว่า “รถโรงเรียน” ทั้งด้านข้างและด้านหลัง มองเห็นได้เด่นชัด, ต้องมีชื่อโรงเรียนและเบอร์โทรศัพท์ ติดอยู่ด้านข้างทั้งสองข้างของตัวรถ, ต้องไม่ติดฟิล์มมืด, ไม่มีม่านกันแดด, ติดตั้งสัญญาณเตือนภัยในรถ, สอนให้เด็กรู้จักบีบแตรรถ หรือพกโทรศัพท์มือถือที่ใช้เฉพาะโทรเข้าออก รวมทั้งการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ให้เด็กนักเรียนรู้จักวิธีแก้ปัญหาเมื่อเจอสถานการณ์จริง” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าว

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า การกวดขันดูแลยังรวมไปถึงรถประจำทางประเภทอื่น ที่เด็กนักเรียนใช้โดยสาร เช่น รถสองแถว หรือรถเมล์ ห้ามมิให้เด็กนักเรียนเกาะ ห้อยโหน หรือยื่นส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายออกไปนอกตัวถังรถโดยไม่สมควร หรือนั่งหรือยืนในหรือบนรถยนต์ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ในขณะที่รถเคลื่อนที่อยู่ในทางเดินรถ ซึ่งการฝ่าฝืนจะมีความผิด ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ฯ กล่าวอีกว่า ในส่วนของมาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับรถโรงเรียนเป็นเรื่องของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะช่วยในการกวดขันและตักเตือนเพื่อให้รถโรงเรียนปฏิบัติตามกฎจราจร และนโยบายของสถานศึกษาเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุสลดเช่นนี้อีก

“รอง ผบ.ตร.” กำชับตำรวจจราจรทั่วประเทศ กวดขันมาตรฐานความปลอดภัยรถนักเรียน