“เมื่อไม่มีใครดู แม่จะดูเอง” พระราชดำรัสที่ชุบชีวิตโขนไทย

“เมื่อไม่มีใครดู แม่จะดูเอง” พระสุรเสียงแห่งแม่ชุบชีวิตโขนไทยให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และได้รับการฟื้นฟูสืบทอดสู่คนรุ่นใหม่
ในปีพุทธศักราช 2546 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กราบบังคมทูลว่า “การแสดงโขนกำลังซบเซา ขาดคนดู”
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงมีพระราชดำรัสตอบด้วยพระสุรเสียงอ่อนโยนแต่มั่นคงว่า “เมื่อไม่มีใครดู แม่จะดูเอง”
ถ้อยคำสั้น ๆ ประโยคนั้น กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการฟื้นคืนชีพของโขนไทยในยุคปัจจุบัน เพราะ “แม่” ไม่ได้เพียงจะดู — แต่ “แม่” จะทำให้คนทั้งชาติได้ดูอีกครั้ง
จากพระราชเสาวนีย์ เมื่อมีการเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในภูมิภาคต่าง ๆ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงให้จัดแสดงโขนหน้าพระที่นั่ง มีประชาชนและผู้ตามเสด็จได้ร่วมชมด้วย โดยกรมศิลปากรจัดแสดงโขนตอนนิ้วเพชร ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร โขนตอนสัมนักขาหึง ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ จังหวัดเชียงใหม่ โขนตอนยกรบ ณ วังไกลกังวล หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
หลังจากนั้นมูลนิธิศิลปาชีพฯ ในฐานะกองอำนวยการจัดแสดงโขนได้ปรับปรุงการแสดงโขนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับปรุงเครื่องแต่งกายโขนให้วิจิตรงดงามตามแบบโขนโบราณ จากความร่วมมือกับคณะกรรมการในการจัดสร้างเครื่องแต่งกายโขนและละคร ตามพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงแสดงความเป็นห่วงเรื่องชุดแต่งกายที่ต่างไปจากสมัยก่อน หลังจากได้ชมการแสดงโขนตอนนารายณ์ปราบนนทุก ที่กรมศิลปากรจัดแสดงถวาย ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จังหวัดสกลนคร เมื่อปี 2546 จึงพระราชทานทรัพย์จำนวน 3 แสนบาท ให้กรมศิลปากรนำไปศึกษาหาข้อมูลและจัดทำเครื่องแต่งกายโขนให้มีลวดลายประณีตตามแบบดั้งเดิม ต่อมาในปี 2547 กรมศิลปากร ได้จัดนิทรรศการวันอนุรักษ์มรดกไทย เรื่อง "พัฒนาการเครื่องแต่งกายโขนตามพระราชเสาวนีย์" ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
จากวันนั้นถึงวันนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงอุปถัมภ์และมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานทุนทรัพย์เพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ชื่นชมความวิจิตรงดงามของศิลปะดั้งเดิมหลากหลายแขนงของไทย
การแสดงโขนโดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้จัดแสดงเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2550 ในตอน พรหมมาศ และเป็นปรากฎการณ์ใหม่ในสังคมไทยที่คนหนุ่มสาวและเยาวชนจำนวนมากให้ความสนใจเข้าชมโขนและยังพาผู้สูงวัยของครอบครัวเข้าชมโขนอย่างเนื่องแน่น นับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามยังความปลาบปลื้มของคณะผู้จัดและเป็นที่ทรงพอพระราชหฤทัยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดการแสดงโขนพระราชทาน ต่อมาจึงใช้ชื่อว่า โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ขึ้นทุกปี
ปี พ.ศ.2552 มูลนิธิศิลปาชีพฯ ได้จัดการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนพรหมาศขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้มีการแสดงสลับรอบระหว่างการบรรเลงวงปี่พาทย์กับวงโยธวาทิต ปรากฏว่าเป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมอย่างมากขนาดต้องเพิ่มรอบการแสดงอีก 1 รอบ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลว จึงมีพระราชเสาวนีย์ให้จัดการแสดงโขนขึ้นทุกปี เป็นที่มาให้คนทั่วไปเรียกชื่อการแสดงโขนนี้ว่า “โขนพระราชทาน” ในปีต่อๆ มา
ปี พ.ศ.2553 จัดแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอนนางลอย
ปี พ.ศ.2554 จัดแสดงตอนศึกไมยราพ
ปี พ.ศ.2555 จัดแสดงตอนจองถนน
ปี พ.ศ.2556 จัดแสดงศึกกุมภกรรณ ตอน โมกขศักดิ์
ปี พ.ศ.2557 จัดแสดงศึกอินทรชิต ตอน นาคบาศ
ปี พ.ศ.2558 จัดแสดงมังกรกัณฐ์ และพรหมาศ ทุกครั้งมีผู้สนใจเข้าชมเนืองแน่น
ปี พ.ศ.2559 ตอนพิเภกสวามิภักดิ์ แต่ต้องยกเลิกเนื่องจากการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
ปี พ.ศ.2560 โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ได้ร่วมแสดงมหรสพสมโภชเนื่องในงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ ท้องสนามหลวง ในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560 ในตอนรามาวตาร และขับพิเภก
ปี พ.ศ.2561 มีการจัดแสดงเป็นวาระพิเศษฉลองครบรอบหนึ่งทศวรรษของโขนพระราชทาน ตอนพิเภกสวามิภักดิ์
ปี พ.ศ.2562 จัดแสดงชุดสืบมรรคา ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องตอนต้นของรามเกียรติ์ และเป็นการจัดแสดงครั้งสุดท้ายของโขนพระราชทานก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19
ปี พ.ศ.2563-2564 งดการแสดงด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19
ปี พ.ศ.2565 จัดแสดงตอนกดทัพ
และในปี 2566 การแสดงโขนได้กลับมาอีกครั้ง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมพรรษา 71 พรรษา 28 กรกฎาคม 2566 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระชนมพรรษา 91 พรรษา 12 สิงหาคม 2566 จึงจัดแสดงโขน ตอน กุมภกรรทดน้ำ โดยยึดแนวบทละครเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่1) จับตอนตั้งแต่หลังจากที่กุมภกรรณทำศึกโมกขศักดิ์ กับพระลักษณ์แต่ไม่สำเร็จ ยังไม่สามารถสังหารพระลักษณ์ได้ จึงคิดหาวิธีทำกลศึก นิมิตกายลงไปใต้น้ำทำพิธีทดน้ำ นอนขวางแม่น้ำไว้ เพื่อขัดขวางกองทัพพระราม เมื่อพระรามรู้อุบายกุมภกรรณจึงใช้ให้หนุมานไปทำลายพิธีทดน้ำของกุมภกรรณเกิดการต่อสู้กันจนกุมภกรรณพ่ายแพ้
พระราชกรณียกิจฟื้นฟูโขน ไม่ใช่แค่การฟื้นฟูนาฏศิลป์ แต่เป็นการพลิกฟื้น ‘ศาสตร์’ และ ‘งานฝีมือช่างหัตถศิลป์ไทยหลายสาขา' เกิดการประชุมกันของผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญงานประณีตศิลป์ของไทยที่กระจายอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ นับร้อยชีวิต เพื่อเชิดชูและสืบทอดศิลปะการแสดงชั้นสูงแขนงนี้ให้ถูกต้องครบถ้วนตามแบบแผน
กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ประกาศขึ้นทะเบียน โขน เป็น มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2552 ในลำดับที่ 1 สาขาศิลปะการแสดง เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2552
ต่อมาในการประชุมคณะกรรมการอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ.2003 ครั้งที่ 13 ที่เมืองพอร์ตลูอิส สาธารณรัฐมอริเชียส เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เวลา 19.35 น. ตามเวลาประเทศไทย องค์การยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียนการแสดงโขนของไทยภายใต้ชื่อภาษาอังกฤษ Khon, masked dance drama in Thailand เป็นรายการตัวแทน มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ในประเภท “รายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity)” โดยมิได้ถูกคณะกรรมการตั้งข้อสังเกตถึงคุณสมบัติแต่ประการใด นับเป็นการขึ้นทะเบียน ‘มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้’ ขององค์การยูเนสโก รายการแรกของประเทศไทย
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ที่มา/ภาพ @กรมประชาสัมพันธ์

บอสณวัฒน์ สวนกลับ กัน จอมพลัง เผยสาเหตุไม่ได้ต้องการเงินส่วนตัว

ราคาทองวันนี้ วันที่ 27 ต.ค. 68 ราคาทองมีปรับตัวอีก ครั้งที่ 10

พบซาก “พะยูน” เกยตื้นเกาะพีพี คาดถูกรอยใบพัดเรือเสียชีวิต

เล็ก ฝันเด่น เจอฝรั่งใส่เสื้อสีสด กลับมาครั้งสองถึงกับประหลาดใจ
















