"สุเทพ นพพันธ์" ถอดรหัสความสำเร็จ ทำสวนทุเรียนยุคใหม่

หากเอ่ยชื่อ ทุเรียนสายพันธุ์ “นวลทองจันท์” เชื่อว่าคอทุเรียนทราบกันเป็นอย่างดีว่าเป็นของดีเมืองจันทบุรี ที่ได้สร้างชื่อไม่เฉพาะแค่สวนเท่านั้น เจ้าของสวน ก็ได้รับการเชิดชูและเป็นบุคคลตัวอย่างที่มีคุณค่าของวงการเกษตรไทย นั่นคือ นายสุเทพ นพพันธ์ เจ้าของสวนทุเรียนนวลทองจันท์ ตำบลมาบไพ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า ถึง “นวลทองจันท์” เป็นทุเรียนที่ได้รับการจดทะเบียนรับรองพันธุ์กับกรมวิชาการเกษตร จดสิทธิบัตรเจ้าของพันธุ์นวลทองจันท์ เมื่อปี 2551 และได้รับการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัดจันทบุรี เมื่อปี 2565  

 

ปัจจุบันสวนทุเรียนนวลทองจันท์ ได้มีการวางแผนการเงิน การลงทุน พัฒนาต่อยอด ขยายธุรกิจ การจำหน่ายผลผลิตทุเรียนคุณภาพจากสวนนวลทองจันท์ ทำให้คุณสุเทพมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 27 ล้านบาทต่อปี ต่อด้วยการรู้จักเก็บออมทำบัญชี ทำให้เป็นเกษตรกรที่ไม่มีหนี้สิน ใช้จ่ายเงินสดในการชำระซื้อสินค้าหรือสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งได้มอบให้ คุณจารุวรรณ นพพันธ์ บุตรสาวคนเล็ก มาช่วยดูแลงานด้านการตลาด สืบทอดอาชีพเกษตรกรที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ

รวมทั้งได้มีการวางแผนการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ปรับเพิ่มผลิตภาพการผลิตในระยะยาว ด้วยการปลูกต้นตะเคียนทองรอบ ๆ สวน สร้างรั้วมีชีวิตเป็นแนวกำบังลมพายุ มากกว่า 3,000 ต้น ปัจจุบันตะเคียนทองที่สวนนวลทองจันท์ มีอายุ 30 - 40 ปีแล้ว นอกจากนี้ยังเป็นธนาคารต้นไม้ สามารถใช้เป็นหลักประกันในการขอสินเชื่อกับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการ และการปลูกต้นไม้ในปัจจุบันก็สามารถขายคาร์บอนเครดิตช่วยสร้างรายได้อีกด้วย

 

พร้อมกับขยายธุรกิจจากการผลิตอย่างเดียวสู่การเป็นผู้ประกอบการส่งออก เปิดโรงคัดบรรจุ (ล้ง) รวบรวมผลผลิตทางการเกษตรในชื่อบริษัท ทรัพย์บูรพา เฟรชฟรุ๊ต จำกัด ส่งออกผลผลิตในสวนและรับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและใกล้เคียงไปยังประเทศปลายทางโดยเฉพาะประเทศจีน และการวางแผนการผลิตให้สอดคล้องความต้องการของตลาดอยู่เสมอ ใช้ตลาดนำการผลิต มั่นใจได้ว่าผลผลิตทุเรียนที่รับซื้อมานั้นมีแหล่งจำหน่ายที่แน่นอน ซึ่งในปี 2567 ราคารับซื้อผลผลิตทุเรียนพันธุ์นวลทองจันท์ อยู่ที่ประมาณ 220 - 300 บาท/กิโลกรัม และทางสวนมีแผนจะขยายตลาดไปยังยุโรป ออสเตรเลีย แคนาดา และตะวันออกกลาง เพื่อรองรับปริมาณไม้ผลที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี
 

นายสุเทพ กล่าวว่า จากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงกระทบต่อการติดดอกออกผลของทุเรียน ติดดอกล่าช้าและทุเรียนสลัดผลร่วงหล่นเป็นจำนวนมาก จึงทำให้จำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนการจัดการทุเรียนในสวนให้ผลผลิตออกสู่ตลาดรุ่นแรก ๆ ของฤดูกาล เพราะจะได้ผลผลิตที่ราคาดีออกมาจำหน่ายก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงกระจุกตัว จากนั้นใช้เทคโนโลยีในการผลิตทุเรียนคุณภาพตามหลักมาตรฐานการเกษตรที่ดีและเหมาะสมสำหรับพืช (GAP) การดูแลรักษาต้นทุเรียนระยะก่อนให้ผลผลิต (อายุ 1 - 4 ปี) ใช้วิธีให้น้ำด้วยระบบสปริงเกอร์ ดูแลตัดแต่งและควบคุมทรงพุ่มเมื่อต้นทุเรียนอายุได้ 6 เดือน มีการป้องกันกำจัดโรคและแมลง หมั่นสำรวจการเข้าทำลายใบทุเรียนของศัตรูพืชที่สำคัญ เช่น เพลี้ยไฟ หนอน เพลี้ยจักจั่น เป็นต้น เพื่อเลือกใช้วิธีการกำจัดที่ถูกต้องเหมาะสม มีการดูแลรักษาต้นทุเรียนในแต่ละระยะ เป็นต้นว่า ระยะให้ผลผลิต

 

โดยเฉพาะในช่วงระยะชักนำการออกดอก ใส่ปุ๋ยมูลวัวเพื่อบำรุงต้นให้สมบูรณ์ เมื่อต้นทุเรียนมีการแตกใบครบ 3 ชุด จึงใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8 - 24 - 24 อัตรา 3 กิโลกรัมต่อต้น เพื่อกระตุ้นการออกดอก ระยะออกดอกติดผลและการพัฒนาของผล มีการฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช โดยการใช้โดรนเพื่อการเกษตร และภายในสวนได้มีการออกแบบระบบน้ำในสวนทุเรียนเพื่อลดแรงงาน ลดต้นทุน รองรับเทคโนโลยี และนวัตกรรมยุคใหม่ แนะนำจุดคุ้มทุนต้องใช้พื้นที่ปลูกอย่างน้อย 50 ไร่ เลือกพื้นที่ปลูกที่เหมาะสม มีพื้นที่ของแหล่งน้ำอย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนและสำรองน้ำไว้ใช้ในแปลง รวมถึงการใช้ Air Blast เป่าลมช่วยการผสมเกสรช่วงหัวค่ำ จนถึงการเก็บเกี่ยวเมื่อทุเรียนอายุได้ตามกำหนด ใช้การจ้างแรงงานที่มีความชำนาญตัด และรับทุเรียนด้วยกระสอบป่าน แล้วใส่ผลผลิตในเข่ง หลีกเลี่ยงให้ผลทุเรียนสัมผัสดินหรือหญ้าในแปลง เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อการติดโรค และอาจจะแสดงอาการเมื่อส่งผลผลิตไปจำหน่ายยังปลายทาง ทดลองศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ

 

 

ด้าน นายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวย้ำว่าจากปัจจัยทั้งหมดทำให้คุณสุเทพสามารถนำพาสวนนวลทองจันท์ให้เป็นสวนทุเรียนคุณภาพ สามารถส่งมอบความอร่อยของทุเรียนไปสู่ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ สร้างชื่อเสียงให้กับทุเรียนไทยให้คงอยู่ในความประทับใจของผู้บริโภค และเป็นต้นแบบของเกษตรกรที่รู้จักปรับเปลี่ยนวิธีการทำสวนให้เข้ากับการยุคสมัยและทรัพยากรที่แตกต่างจากบรรพบุรุษ มีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีและเครื่องจักรกลมาใช้ นับว่าเป็นบุคคลตัวอย่างด้านการเกษตรที่ประสบความสำเร็จ ในการเป็นวิทยากรให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจในเรื่องการทำสวนทุเรียนยุคใหม่