เตรียมตัวไว้เลย ซื้อรถใหม่หนึ่งคันต้องเจอค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

18 พฤศจิกายน 2565

ใครที่กำลังสนใจมองหารถยนต์ไว้ใช้สักคันจะต้องเจอกับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง? วันนี้มาลองศึกษาข้อมูลค่าใช้จ่ายในการถอยรถใหม่สักคันว่าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย!!!

   หลายคนที่มีกิจวัตรการเดินทางในแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำงาน เรียนหนังสือ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ บนท้องถนนทุกวัน คงต้องยอมรับเลยว่าการที่จะมีรถสักคันไว้ใช้เพื่อเดินทางไปไหนมาไหนให้สะดวก รวดเร็วคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หากจะเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยรถสาธารณะในปัจจุบันซึ่งราคาแพงและยังไม่สะดวกสบายเท่าที่ควร

สำหรับใครที่กำลังสนใจมองหารถยนต์ไว้ใช้สักคัน เคยคำนวณไหมว่าจะต้องเจอกับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง? ในแต่ละปีต้องจ่ายเงินเท่าไหร่เพื่อให้ได้รถหนึ่งคัน วันนี้มาลองศึกษาข้อมูลค่าใช้จ่ายในการถอยรถใหม่สักคันว่าต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอะไรบ้างไปดูกันได้เลย


1. เงินดาวน์
ค่าดาวน์รถหรือเงินดาวน์ คือจำนวนเงินก้อนแรกที่ต้องเตรียมจ่ายเมื่อทำการซื้อรถ ส่วนใหญ่แล้วสัดส่วนจะอยู่ที่ 25 – 40% ของราคารถ ซึ่งการวางเงินดาวน์นั้นก็แล้วกำลังทรัพย์ของแต่ละคนหากสามารถวางเงินดาวน์เป็นเงินก้อนใหญ่ได้ ก็จะช่วยลดภาระค่างวดในการผ่อนและดอกเบี้ยในแต่ละเดือนลง เพราะเงินดาวน์นี้จะไม่ถูกคิดดอกเบี้ยนั่นเอง

เตรียมตัวไว้เลย ซื้อรถใหม่หนึ่งคันต้องเจอค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

2. ค่างวดรายเดือน
ก่อนซื้อรถจะต้องคำนวณให้ดีว่าสามารถแบกรับค่าใช้จ่ายในการชำระค่างวดแต่ละเดือนตามระยะเวลาที่ทางผู้ขายกำหนดไว้ได้ ไม่ควรจ่ายค่างวดรถเกินกำหนดเพราะมีผลเสียที่ทบทวีคูณอย่างแน่นอน เช่น ค่าทวงถามหนี้ ค่าปรับ และดอกเบี้ยผิดนัด


3.พ.ร.บ.และภาษีทะเบียนรถรายปี 
แน่นอนว่าเมื่อซื้อรถแล้วก็ต้องมีการชำระภาษีรถยนต์รายปี ทั้งนี้การต่อภาษีรายปีนั้นจะต้องต่อ พ.ร.บ.ควบคู่กันไปด้วย ซึ่ง พ.ร.บ.นี้เปรียบเสมือนประกันภัยภาคบังคับ และมีประโยชน์ในการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ รวมไปถึงผู้ใช้ถนนทุกคน ในส่วนของอัตราภาษีก็จะแตกต่างกันออกไปตามขนาดและความจุในกระบอกสูบเครื่องยนต์ รวมทั้งอายุการใช้งานของรถแต่ละคัน ทั้งนี้ การต่ออายุภาษีที่ล่าช้าก็จะมีค่าปรับ และหากไม่ต่อภาษีรถยนต์ติดต่อกันเป็นระยะเวลา3 ปี ทะเบียนรถจะถูกระงับการใช้งาน

4. ประกันภัยรถยนต์ 
ปัจจุบันการซื้อรถยนต์มักจะมีการแถมประกันภัยให้ด้วยในระยะเวลา 1-2 ปีแรก แต่หลังจากนั้นเจ้าของรถต้องรับผิดชอบการต่ออายุหรือทำประกันภัยเอง ซึ่งก็ไม่ได้มีการบังคับตามกฎหมายแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าควรทำไว้ เพราะประกันภัยรถยนต์มีไว้เพื่อลดภาระและช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในกรณีเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่ แน่นอนเมื่อขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุก็ไม่มีใครสามารถคาดเดาความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้ การทำประกันภัยไว้ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งการทำประกันภัยรถยนต์ก็สามารถเลือกแพคเกจความคุ้มครองได้ตามงบประมาณและความเหมาะสมของแต่ละคน 


5. ค่าบำรุงรักษา
เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานของรถยนต์ การนำรถเข้าตรวจเช็กสภาพประจำปีนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ซึ่งเจ้าของรถจะต้องเตรียมงบประมาณสำหรับการตรวจสภาพและบำรุงรักษารถไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ค่าเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ค่าเปลี่ยนยางรอบคัน ค่าฟิล์มกระจก ฯลฯ 


6. ค่าน้ำมัน
หลายๆ คนคงนึกไม่ถึงแน่ว่าในหนึ่งเดือนต้องเสียค่าน้ำมันเยอะขนาดไหน ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ก็แตกต่างกันไปตามประเภทน้ำมันที่ใช้ รุ่นรถยนต์ และระยะทางของการเดินทางแต่ละวันด้วย ดังนั้นก่อนซื้อควรพิจารณาว่าตนเองเหมาะกับรถประเภทไหน หากใครใช้ขับแค่ในเมืองก็ควรเลือกซื้อรถประเภทอีโค่คาร์ หรือรถ PPV ขนาดกลางซึ่งประหยัดน้ำมันและพลังงานมากกว่ารถกระบะหรือรถประเภทอื่นๆ 


7. ค่าใช้จ่ายจิปาถะ
นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายต่างๆ ข้างต้นที่กล่าวมา ก็ยังมีค่าใช้จ่ายแฝงอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ค่าล้างรถ ค่าอุปกรณ์ตกแต่ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วย ไม่รวมถึงกรณีไม่คาดฝันอย่าง ‘อุบัติเหตุ’ ซึ่งใครทำประกันชั้นหนึ่งไว้ก็พอเบาใจ แต่ใครที่มีความคุ้มครองของประกันไม่ครอบคลุมล่ะก็ ต้องสำรองเงินสดไว้พอสมควรเลย

จะเห็นได้ว่าในการออกรถหนึ่งคันนั้นมีค่าใช้จ่ายหลายอย่างมากก่อนที่จะตัดสินใจซื้อก็ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้ดีว่าจะมีรายได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกรายการหรือไม่ นับเป็นการบ้านที่หนักหนาสำหรับมือใหม่อยู่ทีเดียว แต่ถ้าใครที่ต้องการจะออกรถในงบประมาณประหยัดและเป็นรถที่ตลาดนิยม เช่นรถโตโยต้ามือสองและไม่อยากเสียเวลาหาข้อมูลหรือเจอกับขั้นตอนซื้อรถที่ยุ่งยาก ลองเข้ามาดูเพิ่มเติมได้ที่ Car Hero ฮีโร่ตัวจริง เรื่องรถมือสอง ที่เลือกแต่รถที่ดีที่สุดมาให้คุณ รับรองว่าจะได้รถยนต์คันที่ใช่ กดจองง่ายๆ แค่ปลายนิ้วแบบไม่กี่ขั้นตอน และได้ราคาแบบสบายกระเป๋าอย่างแน่นอน