อนุทิน ยืนยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องปม "นิกม์ แสงศิรินาวิน" เปิดประเด็นหุ้น ITV

จากกรณีที่ นิกม์ แสงศิรินาวิน หรือ นิกม์ ภูมิใจไทย เปิดประเด็นหุ้นสื่อ ITV  ไว้เมื่อเดือนเมษายน 2566 ที่ผ่านมา จนกลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง  โดยนายนิกม์ได้ออกมาเปิดประเด็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถือหุ้นสื่อ ล่าสุดเจ้าตัวได้ยกมือไหว้ขอโทษที่ทำให้พรรคภูมิใจไทย เสื่อมเสียชื่อเสียง ด้านอนุทิน ยืนยัน พรรคภูมิใจไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เผยเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา กรณีที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าพรรคไม่เกี่ยวข้องไม่ได้อยู่เบื้องหลัง ไม่ชกใต้เข็มขัด สิ่งที่นิกม์ ทำ เป็นเรื่องส่วนตัวทำในนามประชาชน นายอนุทิน เผยว่า เจ้าตัวได้ยกมือขอโทษที่ทำให้พรรคภูมิใจไทยเสียชื่อเสียง  นายนิกม์ทำในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้ทำในฐานะพรรคภูมิใจไทยไม่ทำเรื่องเช่นนั้นอยู่แล้ว

ส่วนตัวยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ นายนิกม์  ซึ่ง นายนิกม์ เพิ่งจะมาเป็นสมาชิกใหม่พรรคภูมิใจไทยก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ได้มีการพูดคุยอะไรนอกเหนือจากการเลือกตั้ง

ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องดังกล่าวทั้งสิ้น คนที่จะทำอะไรแทนพรรคภูมิใจไทยได้คือหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรคเท่านั้น และเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวอยู่แล้ว ไม่มีผลกระทบใดใดกับพรรค เพราะว่าคำถามเช่นนี้ไม่เป็นธรรมกับพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคไม่ได้ทำอะไรเลย ตนขอยืนยันในฐานะหัวหน้าพรรค และยิ่งมีคนพยายามเขียนข่าวโยงในลักษณะที่ว่าเอารูปตนไปอยู่คู่ นายสารัชถ์ รัตนาวดีนั้น ขอยืนยันว่าเป็นเพื่อนกันมา 40 ปีแล้ว ซึ่งการเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เป็นเพื่อนกันไม่มีวันหมดอายุอยู่แล้ว เรื่องการทำงานการจัดตั้งรัฐบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ขออย่านำไปผูกโยงกัน

อีกทั้งนายอนุทินกล่าวทิ้งท้ายว่า "โยงอย่างไรก็โยงได้หมดหากคุณจะหาเรื่อง แต่ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรกันแน่นอน นี่เป็นเรื่องของรัฐบาลและนั่นเป็นเรื่องส่วนตัว และอย่าลืมว่าผู้ที่แสดงความยินดีกับพรรคก้าวไกลตั้งแต่คืนวันที่ 14 พฤษภาคมคือตนเอง และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ให้กำลังใจ ในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล"

และได้ถามกลับด้วยว่าในช่วง 3-4 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้เห็นความเคลื่อนไหวใดของพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ และที่ผ่านมา ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่าไม่มีดิวลับตามที่มีกระแสข่าวใดใดทั้งสิ้น