หนุ่มแอบมีชู้ตอนเมียท้อง แอบนัดกิ๊กคนเดิมซ้ำๆ สุดท้ายเกือบกลายเป็นบ้า

24 มีนาคม 2567

หนุ่มแอบมีชู้ตอนเมียกำลังอุ้มท้องลูกคนที่สอง แอบนัดกิ๊กคนเดิมซ้ำๆ เจอเวรกรรมตามทัน สุดท้ายเกือบกลายเป็นบ้า

เหล่าคนเจ้าชู้ระวังเอาไว้เลย เพราะล่าสุดเกิดเหตุอันไม่คาดฝันกับ ชายเวียดนามอายุ 36 ปี ซึ่งเขาได้แต่งงานและมีลูกหนึ่งคน อีกทั้งปีที่แล้วภรรยาของเขายังตั้งท้องลูกคนที่สอง

 

 

โดยในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ภรรยา ต้องจำกัดเรื่องบนเตียง เพื่อความปลอดภัยของลูกในครรภ์ ทำให้ช่วงนั้นฝ่ายสามีได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งทางออนไลน์ และนัดกันทุกครั้งที่เขามีความต้องการ

 

หนุ่มแอบมีชู้ตอนเมียท้อง แอบนัดกิ๊กคนเดิมซ้ำๆ สุดท้ายเกือบกลายเป็นบ้า

จนเดือนมิถุนายนปี 2566 ไม่กี่วันหลังจากแอบนัดกับหญิงสาวคนเดิม เขาเริ่มรู้สึกคันและแสบร้อนในทางเดินปัสสาวะ ทุกครั้งที่ปัสสาวะจะรู้สึกเจ็บปวดและไม่สบายตัว โดยมีหนองสีเหลืองไหลออกมาด้วย เมื่อเห็นเช่นนี้เขาจึงไปตรวจที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยการแพทย์ฮานอย และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น "โรคหนองใน" 

 


แต่สิ่งที่ยิ่งเจ็บปวดไปกว่านั้นคือ ภรรยาของเขาซึ่งตั้งครรภ์อยู่ในขณะนั้น เมื่อเธอไปพบแพทย์ก็พบว่าเป็นโรคนี้เช่นกัน และต้องได้รับการรักษาเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในการตั้งครรภ์ 

 


เมื่อระลึกได้ว่าหลังจากติดโรคทางเพศสัมพันธ์มาจากผู้หญิงคนอื่น และส่งต่อโรคให้ภรรยา ทำให้เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก แม้ว่าหลังจากรักษาจนหายจากโรคหนองในแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าแบคทีเรียยังคงอยู่ในท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง
 

หนุ่มแอบมีชู้ตอนเมียท้อง แอบนัดกิ๊กคนเดิมซ้ำๆ สุดท้ายเกือบกลายเป็นบ้า

ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อเขาเห็นหูดปรากฏบนอวัยวะเพศของเขา ก็รีบกลับไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพ และตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มกังวลมากขึ้นไปอีก เขาถูกหลอกหลอนและคิดเสมอว่าเขามีหูดที่ปาก ลิ้น และลำคอ เขาจึงไปหาหมอหลายต่อหลายคน แม้ผลการส่องกล้องตรวจไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่ตัวเขาเองก็คิดอยู่เสมอว่าโรคนี้กำลังหลอกหลอนเขาอยู่

 


ด้าน Dr. Nguyễn Hoài Bắc หัวหน้าภาควิชาบุรุษวิทยาและเวชศาสตร์ทางเพศ (Hanoi Medical University Hospital) อธิบายว่า หลังจากตรวจและรับการรักษาแล้ว ไม่พบแบคทีเรียและไวรัสอีกต่อไป แต่ผู้ป่วยยังคงเชื่อว่าตนเองป่วย เนื่องจากความหมกมุ่นและกังวล เขาถูกหลอกหลอนด้วยโรคภัยไข้เจ็บ ส่งผลให้นอนไม่หลับและเบื่ออาหาร สุดท้ายจึงส่งตัวเขาไปตรวจสุขภาพจิต และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น "โรควิตกกังวล" 

หนุ่มแอบมีชู้ตอนเมียท้อง แอบนัดกิ๊กคนเดิมซ้ำๆ สุดท้ายเกือบกลายเป็นบ้า


ทั้งนี้จากกรณีข้างต้น จะเห็นได้ว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัยเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดโรคติดเชื้อ ส่งผลต่อสุขภาพกาย แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพจิตด้วย 

 


พร้อมกันนี้ Dr.Dương Minh Tâm หัวหน้าหน่วยโรคเกี่ยวกับความเครียดและความผิดปกติทางเพศ สถาบันสุขภาพจิต ยังบอกอีกว่า ผู้ที่มีความผิดปกติมักจะป่วยเป็นโรคทางเพศแล้วประสบกับความเครียด โรควิตกกังวลไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือคนส่วนใหญ่ค้นพบและไปพบแพทย์ช้า ดังนั้นการรักษาจึงต้องใช้เวลานานและยากลำบาก

 


"จิตวิทยาทั่วไปเมื่อต้องทุกข์ทรมานจากโรคทางเพศคือผู้ป่วยจะกังวลมากและกลัวคนอื่นจะรู้ โดยเฉพาะคู่สมรสของตน จึงไปหาหมอแบบเงียบๆ แม้จะหายดีแล้วแต่ก็ยังกังวลว่าโรคจะยังคงอยู่หรือไม่ และทำให้ไม่กล้ามีเพศสัมพันธ์อีก จนนอนไม่หลับและเครียด อย่างไรก็ตาม คนไข้ยังคงไม่คิดว่าเป็นปัญหาสุขภาพจิต แต่คิดว่าเป็นเพราะโรคทางเพศ จึงมีความกังวลมากขึ้น ทำให้อาการแย่ลง"

 


อย่างไรก็ตาม หมอยังบอกด้วยว่า เพื่อป้องกันโรค อันดับแรกจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย และซื่อสัตย์ต่อคู่สมรส/คนรักของคุณ ในกรณีที่คุณเป็นโรคและได้รับการรักษาแล้วแต่ยังมีความกังวล โรคกลัว วิตกกังวล ให้คิดถึงปัญหาสุขภาพจิตทันทีเพื่อรับการตรวจตั้งแต่เนิ่นๆ และได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

หนุ่มแอบมีชู้ตอนเมียท้อง แอบนัดกิ๊กคนเดิมซ้ำๆ สุดท้ายเกือบกลายเป็นบ้า

 

ข้อมูลจาก phunuphapluat