ผัวเมียประหยัด อาหาร 1 มื้อ อุ่นกินซ้ำๆ ทั้งวัน สุดท้ายตรวจเจอโรคร้าย

การเดินทางสายกลางนับเป็นการดำรงชีวิตที่ดีที่สุด ไม่ว่าทำงาน เที่ยว ออกกำลังกาย หรือ อะไรก็แล้วแต่ เพราะถ้าหนักอันใดอย่างหนึ่งไปก็จะทำให้เกิดผลร้ายกับตัวเองได้ เช่นเดียวกับเคสของคู่รักรายนี้จาก ประเทศจีน

โดยสื่อต่างประเทศได้รายงานเคสของ หญิงชราอายุ 73 ปี ที่อาศัยอยู่ในหางโจว ซึ่งเธอหาเลี้ยงชีพด้วยการขายผักและผลไม้ที่ตลาด ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีอาการริดสีดวงทวารรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเธอมักมีอาการท้องผูกและอุจจาระเป็นเลือด 

กระทั่งเดือนมิถุนายน 2565 จึงไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล แพทย์พบว่าเธอเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ จึงต้องผ่าตัดเอาเนื้องอกที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 5 ซม. บริเวณส่วนล่างของไส้ตรงออก

ในตอนนั้นแพทย์ยังแนะนำให้สามีของหญิงชราคนดังกล่าว เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วย แต่ชายอายุ 78 ปี กลับไม่สนใจ กระทั่งในเดือนพฤศจิกายน 2566 จู่ๆ เขาก็มีเลือดออกในกระเพาะอาหารหลังจากดื่มแอลกอฮอล์ 

ทว่าระหว่างการส่องกล้องทางเดินอาหาร แพทย์พบว่าเขามีก้อนเนื้อขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 ซม. ในลำไส้ใหญ่ ต่อมาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เช่นเดียวกับภรรยาของเขา
 

ตามที่ Dr. Lưu Phàm Long รองผู้อำนวยการภาควิชาศัลยศาสตร์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก โรงพยาบาลในเครือของมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์เจ้อเจียง ระบุว่า

สาเหตุที่สามีภรรยาทั้งคู่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ เนื่องมาจากนิสัยกิจกรรมการกินและดื่มในขณะที่อยู่ด้วยกัน เนื่องจากเป็นคนประหยัดมาก พวกเขาปรุงอาหารวันละครั้งเท่านั้น และอุ่นอาหารที่เหลือจากมื้อกลางวันเพื่อรับประทานมื้อเย็นและอาหารมื้อดึก

อย่างไรก็ตาม นอกจากนี้ทั้งคู่ยังกินผักดอง ปลาเค็ม และอาหาหมักดองชนิดต่างๆ เป็นประจำ อาหารที่มีรสชาติเข้มข้นเหล่านี้ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดมะเร็งลำไส้ หรือมะเร็งทวารหนัก

ข้อมูลจาก nguoiduatin