"ออกัส วชิรวิชญ์" เปิดใจเคลียร์หลัง "กันสมาย" โพสต์แฉ เผยโดนอีกฝ่ายขู่ 2 ข้อ

21 เมษายน 2567

"ออกัส วชิรวิชญ์" เปิดใจเคลียร์หลัง "กันสมาย" โพสต์แชทแฉ เผยโดนอีกฝ่ายข่มขู่ 2 ข้อ ยืนยันว่าไม่มีอะไรแน่นอน.

กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนของวงการบันเทิง จากกรณีที่ "กันสมาย ชนกันต์" ออกมาแฉว่ามีดาราชายทักมาขอฟันแฟนเก่า มีคำใบ้ออกมาเรื่อยๆ จนหลายคนโฟกัสไปที่ "ออกัส วชิรวิชญ์" ซึ่งเจ้าตัวก็ออกมายอมรับว่า ดาราที่อยู่ในแชทดังกล่าวเป็นตนเองจริงๆ

ออกัส วชิรวิชญ์ เปิดใจเคลียร์หลัง กันสมาย โพสต์แฉ เผยโดนอีกฝ่ายขู่ 2 ข้อ

ล่าสุดทางด้าน ออกัส วชิรวิชญ์ เปิดใจเคลียร์ประเด็นดังกล่าว ระบุว่า ก็ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเลยนอกจากออกมาขอโทษและพูดในด้านของตัวเองบ้าง

ออกัส เริ่มอธิบายว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นการเข้าใจผิดมากกว่า เรื่องการเข้าใจผิด ซึ่งเกิดมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ที่ตนไปเที่ยวสงกรานต์กับเพื่อน 3 คน ซึ่งเป็นเพื่อนผู้ชายหมดเลย ซึ่งตนก็อยู่ที่โต๊ะกันเฉยๆ จากนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาขอร่วมโต๊ะด้วย

ออกัส วชิรวิชญ์ เปิดใจเคลียร์หลัง กันสมาย โพสต์แฉ เผยโดนอีกฝ่ายขู่ 2 ข้อ

"ทางเพื่อนผมได้อนุญาตเพราะเรารู้จักกันมาก่อน แล้วก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนคนล่าสุดของคนที่โพสต์ พอได้ยินก็กลัวนิดหนึ่ง ค่อนข้างระวังตัวมากเคยมีประเด็นกับคนที่โพสต์มาก่อน วันนั้นก็ไม่มีอะไรเขาก็ขอตัวกลับไปซึ่งผม 3 คนก็อยู่จนงานเลิก ผมก็แยกย้ายกลับบ้านหมดไม่มีอะไร

จนถึงวันที่ 16 เมษายน คนที่โพสต์ก็ได้ทักไลน์ส่วนตัวส่วนตัวมาหา แล้วก็ยื่นข้อเสนอให้ผม 2 อย่าง ก็คือ 1 ให้ไปกราบเท้าขอโทษ 2 ก็คือจะแฉผม ซึ่งผมก็อธิบายให้เขาฟังทุกอย่างแล้วแต่เขาก็ไม่ฟัง ผมก็ได้เพื่อนสนิทของผมและเพื่อนสนิทของเขาด้วยที่อยู่ในงานวันนั้น ช่วยยืนยันว่าไม่มีอะไร แต่ก็ไม่เป็นผมครับ"

ออกัส เล่าต่อไปว่า หลังจากนั้นไม่นานเขาก็โพสต์ลงสตอรี่ พอตนเห็นสตอรี่ ก็โทรตรงไปหาเขาเลย พอโทรตนก็พยายามจะอธิบายแต่สิ่งที่ตนได้รับกลับมาก็คือ คำขู่จากเพื่อนของเขาให้ไปกราบเท้า

หลังจากนั้นตนก็วางสายไปไม่ได้ตอบว่าจะไปหรือไม่ไป ตนไม่มั่นใจว่าการที่ตนไปแล้วมันจะมีอะไรที่กระทบต่อตัวตนมั้ย ไม่รู้ว่าตนจะเป็นไงบ้างถ้าไป เรื่องก็ประมาณนี้ ซึ่งเขาส่งมาว่าให้ขอโทษ ซึ่งเขามีตัวเลือกให้ 2 อย่างแค่นั้นเอง

ออกัส วชิรวิชญ์ เปิดใจเคลียร์หลัง กันสมาย โพสต์แฉ เผยโดนอีกฝ่ายขู่ 2 ข้อ
"ผมคิดว่าเขาก็น่าจะเข้าใจผิดในวันที่ 15 เมษายน ซึ่งผู้หญิงคนนั้นผมไม่รู้จักครับ เพิ่งเคยเจอ ซึ่งทางเพื่อนผมยังบอกเลยว่าเป็นแฟนคนล่าสุดของคนนั้น ผมก็ยืนยันกับเขาแล้วให้เพื่อนสนิททั้งผมและเขาที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วยยืนยัน ก็ไม่ฟัง"

ออกัส เล่าอีกว่า เขาบอกว่าให้เวลาถึงพรุ่งนี้ ซึ่งแต่มันยังไม่ถึง แล้วก็ไม่ถึงชั่วโมงเขาก็โพสต์สตอรี่เลย ซึ่งตนก็ไม่ทราบครับว่าจะแฉเรื่องอะไร เพราะเรื่องก่อนหน้านี้มันก็นานแล้ว 3-4 ปีแล้ว และคิดว่าการตัดเพื่อนของเขาไม่มีอะไรแล้ว เราก็ไม่ได้เป็นเพื่อนกัน แต่ตนยังมองเขาเป็นเพื่อนอยู่นะ ถึงเขาจะตัดไปก็ไม่เป็นไร แต่ตสก็ไม่ไปก้าวล่วง ไม่ไปยุ่งกับเขาอีกเลย ผ่านมา 3-4 ปี

ออกัส วชิรวิชญ์ เปิดใจเคลียร์หลัง กันสมาย โพสต์แฉ เผยโดนอีกฝ่ายขู่ 2 ข้อ

"ผมรู้ก็กังวล เพระว่าทางโน้นเขาเคยมีประเด็นกับผม แล้วผมก็รู้สึกว่าเกินไปหน่อย บางทีเรื่องพวกนี้ผมว่ามันเคลียร์กันได้ถ้าหันหน้ามาคุยกันหรือนัดเจอก็ได้ มีประเด็น 3-4 ปีที่แล้ว ก็ไม่เคยมีอีก ผมก็เลยคิดว่าเป็นครั้งนี้วันที่ 15 เมษายนที่มีปัญหา

ที่ผ่านมาไม่คุยกัน ไม่รู้เรื่องในชีวิตเขา ไม่เคยเจอกันเลย ตัดขาดกันไปเลย แล้วผมก็ไม่มีคอนแทคน้องผู้หญิงด้วย ผมเลยมั่นใจว่ามันไม่มีอะไร ถ้าผมไปคุยกับเขา ไปขอไอจี ขอไลน์ ผมก็คงจะรู้สึกว่าผมผิด ซึ่งผมก็เซฟตัวเองพอสมควร ใช้คำว่าผมกลัวเลยดีกว่า เลยตั้งใจที่จะห่างและเซฟตัวเองมาก เพราะผมไม่อยากให้เกิดการเข้าใจผิดอีก"

ทั้งนี้ ออกัส ยังได้บอกอีกว่า มีการคุยที่เขาคุยกับเพื่อนตนด้วย แต่โต๊ะมันเล็ก เขาถามว่าคนนั้นไม่มาเหรอ ตนก็ยังถามซ้ำกับเพื่อนตนว่าไม่มาเหรอ ตนอยากเจอด้วยซ้ำ เพราะว่าผ่านมา 3-4 ปีแล้ว เราลืมไปแล้ว ในมุมผมอยากเจอแล้วคุยด้วยซ้ำ

ออกัส วชิรวิชญ์ เปิดใจเคลียร์หลัง กันสมาย โพสต์แฉ เผยโดนอีกฝ่ายขู่ 2 ข้อ

ย้ำชัดว่าไม่มีเผลอเลอคุย ตอนนั้นไม่มีแก้ว วันนั้นตนมั่นใจว่าไม่มีอะไรแน่นอน เพื่อนที่อยู่ด้วย 2 คน ก็ยืนยันว่าไม่มีอะไร ตนเชื่อตอนนี้ทางคนโพสต์รู้แล้วว่าไม่มีอะไร เพื่อนตนอธิบายแล้ว ตอนนั้นเขาน่าจะไม่ฟัง ตอนนี้เขาน่าจะมั่นใจแล้วว่าตนไม่ผิดแล้วก็ให้เกียรติจริงๆ

"ในส่วนของผมคงไม่ไปอะไรกับเขาแล้วครับ เพราะสิ่งเกิดขึ้นมันได้เสียหายไปแล้ว ถึงผมจะไปทำอะไรเขาก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น อันนี้ต้องเป็นเรื่องกับทางบริษัทผม เพราะเสียหายเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพรีเซ็นเตอร์ อีเวนต์ ลูกค้าซีรีส์ แฟนมีตติ้งทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

ทุกอย่างมีการเลื่อนและยกเลิกด้วย สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมรู้สึกเสียใจกับทางบริษัทครับ เสียใจกับทางครอบครัวผม เพราะผมก็เป็นผู้ชายคนนึงที่เป็นเสาหลักของครอบครัว เรื่องนี้ทั้งหมด เวลาจะทำอะไร พิมพ์อะไร ต้องมีสติ คิด แล้วความเป็นส่วนตัวของผมก็คงจะไม่มี"