จอย ติตัส อดีตนางแบบยุค 90 ผันตัวเป็นแม่ค้าขายข้าวต้ม หาเลี้ยงครอบครัว

เป็นอีกคนในวงการบันเทิงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สำหรับ "จอย ติตัส" อดีตนางแบบยุค 90 จากที่เคยหารายได้เดือนละหลักแสน รายได้ติดลบ นำเงินเก็บมาใช้จนหมด และผันตัวมาเป็นแม่ค้าขายข้าวต้มข้างทาง

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้มีผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจไปทั่วทุกวงการอาชีพอีกด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีอดีตนางแบบชื่อดัง จอย ติตัส ที่ตอนนี้โดนพิษโควิดเล่นงาน จากที่เคยได้รายได้จากการทำงานเบื้องหลังในวงการเป็นออร์แกไนซ์อยู่ที่เดือนละแสน แต่ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก รายได้ติดลบ นำเงินเก็บมาใช้จนหมด และผันตัวมาเป็นแม่ค้าขายข้าวต้มข้างทาง

โดย จอย ติตัส ได้เปิดใจกับรายการทุบโต๊ะข่าว ช่องอมรินทร์ทีวี ว่า ก่อนหน้านี้ตนเองทำงานอยู่เบื้องหลังเกี่ยวกับการถ่ายแบบ กองภาพยนตร์ ตลอดจนเป็นที่ปรึกษาตามบริษัทต่างๆ ได้เงินเดือนตกอยู่ที่ 100,000 กว่าบาท ต่อมามีสถานการณ์โควิด-19 ทำให้งานทุกอย่างหยุดชะงัก รายได้ติดลบ เพราะต้องเอาเงินเก็บมาใช้นานหลายเดือน

ช่วงต้นปีที่ผ่านมาสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น จึงตัดสินใจขนเสื้อผ้าพร้อมรถ 1 คันมาตายดาบหน้าตัดสินใจเช่าห้องพักรายเดือนเดือนละ 2,000 บาท ตั้งหลักขายข้าวต้มมานานกว่า 2 เดือนแล้ว โดยส่วนตัวไม่รู้สึกอาย อยากให้ทุกคนเห็นครั้งหนึ่งเราเคยเป็นนางแบบอยู่หรูหรา ตอนนี้จอยไม่มีอะไรเลยนะ แก้วแหวนเงินทองเกลี้ยงเลยนะขายเรียบ แต่จอยไม่กลัวอะไรเลยนะ อยากให้เห็นว่าจอยทำได้ คนอื่นต้องทำได้ เชื่อว่าคนอื่นแย่กว่าจอย

อีกไม่นานอาจจะชอบนะ คิดหัวการค้า อยากขายสูตร มีแฟรนไชส์ แต่ว่าจอยทำคนเดียวจอยเหนื่อย โควิดทำให้เราเราครอบครัวมากขึ้น จากที่แยกย้ายกันไปอยู่ไกลๆ ก็มาอยู่รวมกันมากขึ้น และรู้วิธีการใช้เงิน จอยรู้เยอะเลย ไม่เสียดายและไม่เป็นอะไรกับการเป็นแบบนี้ เข้าใจเพื่อนหลายๆคนไม่กล้าออกมาทำกัน หนึ่งคืออายด้วย ถามว่าส่วนตัวรู้สึกอายไหม บอกได้เลยว่าไม่อาย ยอมเหนื่อยเพื่อเดินหน้าได้ แต่ไม่ยอมท้อหรือหมดหวัง ส่วนหนึ่งที่ต้องทำเพื่อเลี้ยงดูพ่อแม่ ที่ป่วยเป็นมะเร็งอยู่ ตลอดจนลูกๆ ทั้ง 4 คน ก็ยังรอคอยตนในฐานะหัวเรือหลัก

สำหรับค่าใช้จ่ายในช่วงนี้ ส่วนมากเป็นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับลูก กับของพ่อแม่ ตกวันละ 300-400 บาท เนื่องจากตนเองต้องส่งเงินให้ครอบครัวเพื่อที่จะได้นำไปซื้ออาหารหรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ขณะที่ตนเองไม่ได้ใช้จ่ายอะไร เนื่องจากตนขายข้าวต้ม ก็อาศัยกินที่ร้าน รายได้ทุกวันนี้ก็ถือว่าโอเค ขายได้ประมาณ 800-1,000 บาทแล้วแต่บางวัน ก็พอประทังชีวิตไปได้