กบง. พร้อมตรึงราคาก๊าซหุงต้มอีก 1 เดือน

20 มกราคม 2566

กบง. ตรึงราคา LPG ถึงสิ้น ก.พ. 2566 ขณะที่ค่าไฟฟ้าลดให้เฉพาะผู้ใช้ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และคาดใช้เงินอุดหนุนค่าไฟรวม 7,500 ล้านบา

กบง. พร้อมตรึงราคาก๊าซหุงต้มอีก 1 เดือน

กบง. พร้อมตรึงราคาก๊าซหุงต้มอีก 1 เดือน


 

ล่าสุด 20 ม.ค. 2566 – นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผย ว่าที่ประชุม กบง.วานนี้ (18 ม.ค. 2565 ) เห็นชอบ ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม ( LPG ) ต่ออีก 1 เดือน จนถึงสิ้นเดือน กุมภาพันธ์ 2566  จากเดิมสิ้นสุดการตรึงราคา 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในสิ้นเดือนมกราคมนี้ รวมถึงส่วนลดคค่าไฟฟ้ากลุ่มเปราะบาง ที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน สำหรับ ค่าไฟฟ้าประจำเดือน ม.ค. – เม.ย. 2566 จากที่งวดที่ผ่านมามีการช่วยเหลือครอบคลุม
ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน

กบง. พร้อมตรึงราคาก๊าซหุงต้มอีก 1 เดือน

ซึ่ง ที่ประชุม กบง. จึงได้มีการพิจารณาทบทวนแนวทางการกำหนดราคา LPG โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชน ขณะเดียวกันยังคงต้องคำนึงถึงสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย ที่ประชุม จึงได้มีมติดังนี้

เห็นชอบให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG  อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ต่อไปอีก 1 เดือน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-28 ก.พ. 66 ปรับราคาขายปลีก LPG เพิ่มอีก 15 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ในเดือนมีนาคม โดยจะปรับเป็นราคาขายปลีก 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลตั้งแต่ 1-31 มี.ค. 66

ทั้งนี้ ประชุม กบง. ได้มอบหมายให้ สนพ. ประสานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อพิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป

นายสุพัฒนพงษ์ ยังได้เปิดเผยอีกด้วยว่า วันนี้ที่ประชุม กบง. ได้มีการพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบ
ต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลดค่าไฟฟ้าประจำเดือน 
ม.ค.–เม.ย. 2566 ซึ่งมีค่า Ft เรียกเก็บที่ 93.43 สตางค์ต่อหน่วย สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยกลุ่มเปราะบาง ที่มีการใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ 1-150 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย
  • จำนวนหน่วยไฟฟ้าที่ใช้ 151-300 หน่วย ส่วนลดค่าไฟฟ้า 67.04 สตางค์ต่อหน่วย

โดย พน. ประเมินว่ามาตรการช่วยเหลือในครั้งนี้จะมีผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 19.66 ล้านราย และคาดว่าจะใช้วงเงินช่วยเหลือประมาณ 7,500 ล้านบาท จากงบประมาณแผ่นดินและงบที่ได้รับการจัดสรรโดยความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ระเบียบ
และขั้นตอน เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติต่อไป