ชาวบ้านสุดทนร้องทุกข์ เจ้าของเอาซากรถขวางทาง ไม่สนโลก ไล่ไปฟ้องกันเอาเอง

26 มิถุนายน 2566

ชาวบ้านชุมชนซอยร่มเกล้า 24 เดือดร้อนหนัก รวมตัวร้องทุกข์ผ่านสื่อ เจ้าของเอาซากรถจอดขวางถนน ไม่สนโลก เดือดร้อนก็ให้ไปฟ้องกันเอา เอง

  กรณีชาวบ้านซอยร่มเกล้า 24 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร บริเวณตึกแถวข้างทาง ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุเป็นตึกทาวน์โฮม 4 ชั้น ติดถนน พบมีบ้านหลังที่เกิดเหตุ ได้มีซากรถจอดขวางและก้อนหินสร้างคล้ายเป็นภูเขาลูกเล็กๆ กั้นทางหน้าบ้าน ซึ่งเป็นถนนส่วนรวมของคนในตึก จากการสอบถามคนในหมู่บ้านพบตึกนี้ไม่มีคนอยู่อาศัย แต่มีผู้คอยดูแล ในทุกๆสัปดาห์จะคอยเข้ามีมาดูแล

  ชาวบ้านสุดทนร้องทุกข์ เจ้าของเอาซากรถขวางทาง ไม่สนโลก ไล่ไปฟ้องกันเอาเอง   

 

  ตัวแทนชาวบ้าน คือ   นาย พรเทพ  อายุ 53 ปี เล่าว่า ชาวบ้านละแวกนี้เดือดร้อนเรื่องการสัญจรไปมา ซึ่งใช้ชีวิตกันอยู่มานานกับถนนเส้นนี้ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเปลี่ยนไป จากการใช้ถนนที่สมควรต้องใช้กลายเป็นต้องใช้บนทางเท้าแทน ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นมาระยะหนึ่งแล้วประมาณเดือน 2 เดือน แต่ช่วงก่อนหน้านั้นพวกเรายังทนกันได้เนื่องจากเป็นแค่ลูกระนาดเล็กๆ

ชาวบ้านสุดทนร้องทุกข์ เจ้าของเอาซากรถขวางทาง ไม่สนโลก ไล่ไปฟ้องกันเอาเอง

   แต่ระยะต่อมาเริ่มหนักขึ้นหนักขึ้นจนเป็นซากรถที่เห็น ซึ่งเจ้าของทำแบบนี้ทำให้เราขับผ่านไม่ได้เลย ทำเป็นอนุสาวรีย์ซากรถ พวกชาวบ้านจึงมาร้องเรียนกับสื่อให้เข้าช่วยเหลือ ทั้งนี้ชาวบ้านเคยแจ้งไปทางเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับพวกชาวบ้านมาให้มาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีเอง 
ชาวบ้านสุดทนร้องทุกข์ เจ้าของเอาซากรถขวางทาง ไม่สนโลก ไล่ไปฟ้องกันเอาเอง

ชาวบ้านสุดทนร้องทุกข์ เจ้าของเอาซากรถขวางทาง ไม่สนโลก ไล่ไปฟ้องกันเอาเอง
หลังจากนั้นทางชาวบ้านก็ได้มาคุยกับเจ้าของซากรถคันนี้ แต่เจ้าของซากรถคันนี้กับพูดให้ชาวบ้านไปฟ้องศาลเอาเองเพราะเป็นกรรมสิทธิ์ของตนซึ่งศึกษามานานนับ 7-8 ปีแล้ว และพูดว่าที่ทำไปไม่ผิดเป็นพื้นที่ของตน ชาวบ้านจึงบอกกับผู้สื่อข่าวว่าเราศึกษากฎหมายมาน้อยและไม่เข้าใจทางกฎหมาย เราจึงปล่อยไว้และไม่เถียงอะไร จึงอยากจะร้องเรียนผ่านสื่อให้เข้ามาดูแลเรื่องนี้ เพราะถ้าเป็นจริงการใช้ชีวิตประจำวันของพวกชาวบ้านต้องได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า และเป็นการใช้ชีวิตแบบส่วนรวมอยากบอลให้สื่อกลางคุยและให้เข้าใจในการใช้ชีวิตส่วนรวมของชาวบ้าน 

ชาวบ้านสุดทนร้องทุกข์ เจ้าของเอาซากรถขวางทาง ไม่สนโลก ไล่ไปฟ้องกันเอาเอง

   ซึ่งเจ้าของบ้านหลังนี้ได้กล่าวว่าการที่ให้รถขับผ่านไปผ่านมา ทำให้บ้านของตนทรุดจึงเอารถมากั้น ไม่ให้รถสัญจรผ่านไปผ่านมา และอ้างสิทธิ์ถือครองในที่ดินของตน คิดแบบนี้ก็ไม่ถูกต้อง เพราะตึกทาวน์โฮมถ้าจะทรุดมันก็ทรุดทั้งแถบไม่ใช่แค่หลังเดียว และความเดือดร้อนอีกอย่างตอนฝนตกน้ำท่วม ทำให้น้ำไม่ระบายกักขังอยู่หน้าบ้านแต่ละคน เพราะมีซากรถและกองหินขวางทางระบายน้ำอยู่

ชาวบ้านสุดทนร้องทุกข์ เจ้าของเอาซากรถขวางทาง ไม่สนโลก ไล่ไปฟ้องกันเอาเอง

ซึ่งอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เพราะชาวบ้านเดือดร้อนกันมากการการเข้าออกลำบากการสัญจรไปมาลำบาก เพราะต้องใช้ถนนเส้นนี้ตลอดทั้งวัน