เปิดตัวแรง อัญชันพันธุ์ใหม่ เทพรัตนไพลิน 63 ดอกดก สีสวย รายได้งาม

กรมวิชาการเกษตร เปิดตัวอัญชันพันธุ์ใหม่ “อัญชันพันธุ์เทพรัตนไพลิน 63” อย่างเป็นทางการ หลังผ่านกระบวนการปรับปรุงพันธุ์และทดสอบคุณภาพมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้เกษตรกรใช้ปลูกเชิงการค้า ตอบโจทย์ทั้งด้านผลผลิต คุณภาพสี และสารสำคัญในดอกอัญชัน

 

 

อัญชันพันธุ์เทพรัตนไพลิน 63 คัดเลือกมาจากอัญชันพันธุ์ปลูกทั่วไป ซึ่งมีความแปรปรวนทางพันธุกรรมของลักษณะดอก ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์พืชจนได้รับการรับรอง

ปี 2554–2557 คัดเลือกและเปรียบเทียบพันธุ์ ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร

ปี 2559 ทดสอบพันธุ์ในแปลงเกษตรกร จังหวัดอ่างทอง

ปี 2561 ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร
จากนั้นได้รับการรับรองเป็นพันธุ์แนะนำ และได้รับพระราชทานชื่อพันธุ์ว่า “เทพรัตนไพลิน 63”

ลักษณะประจำพันธุ์ / ลักษณะพฤกษศาสตร์

• อัญชันพันธุ์นี้เป็นไม้เถา พันเลื้อย
• ใบ ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ ใบย่อย 5–7 ใบ รูปรี หูใบรูปสามเหลี่ยมแคบ
• ลำต้น ไม้พันเลื้อย ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ มี 5 และ 7 ใบย่อย ใบรูปรี ดอกรูประฆัง
• ดอก ดอกเดี่ยว ออกตามซอกใบ รูประฆัง กว้าง 3.78 ซม. ยาว 5.3 ซม. ใบประดับย่อยรูปกลม กลับ ดอกมี 5 กลีบ สีน้ำเงินเข้ม (blue group N95 A) กลีบดอกชั้นนอกหรือกลีบกลางกว้าง 3.36 ซม. ยาว 4.92 ซม. ก้านดอกยาว 0.38 ซม.
• ผล ผลแห้งแตก รูปขอบขนานคล้ายแถบ สีน้ำตาลซีด กว้าง 1.1 ซม. ยาว 9.78 ซม.
• เมล็ดพันธุ์ มี 5–8 เมล็ดต่อผล เมล็ดรูปขอบขนาน ผิวเปลือกมีรอยเว้า สีน้ำตาลเกือบดำ มีลายบนเปลือกเมล็ด

อายุเก็บเกี่ยวครั้งแรก หลังปลูก 28 วัน

 

ลักษณะเด่น

• ดอกมีกลีบ 5 กลีบ ซ้อนเวียน สวยงาม
• ให้ผลผลิตดอกสดเฉลี่ย 2,122 กิโลกรัมต่อไร่
• เก็บเกี่ยวครั้งแรกเร็วกว่าอัญชันพันธุ์ปลูกทั่วไป 6 วัน
• ปริมาณแอนโทไซยานินรวมสูงกว่าพันธุ์ปลูกทั่วไป 1.5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักกลีบดอกสด 100 กรัม

ข้อควรระวัง / ข้อจำกัด

• ไม่ควรปลูกในพื้นที่น้ำท่วมขัง
• หากปลูกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ ควรปลูกให้ห่างจากพื้นที่ปลูกอัญชันพันธุ์อื่น เพื่อรักษาคุณภาพและให้ได้เมล็ดตรงตามพันธุ์

การปลูกและการดูแลรักษา

การเตรียมดิน

ไถดะ 1 ครั้ง ตากดิน 1–2 สัปดาห์ หว่านปูนขาวปรับสภาพดินตามผลวิเคราะห์ดิน ให้ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) อยู่ระหว่าง 5.5–6.8 จากนั้นไถพรวน 1–2 ครั้ง และใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่สลายตัวดีแล้ว อัตรา 1.5–2 ตันต่อไร่

การเตรียมกล้า

แช่เมล็ดในน้ำสะอาด 2 ชั่วโมง นำขึ้นมาผึ่งให้แห้งในที่ร่ม เพาะในถาดหลุม ใช้พีทมอสเป็นวัสดุเพาะ ดูแลจนกล้ามีใบจริง 2 ใบ อายุประมาณ 21 วัน

การปลูก

ย้ายกล้าลงแปลง ปลูก 1 ต้นต่อหลุม ระยะปลูกระหว่างต้น 1 เมตร ระหว่างแถว 1 เมตร ขุดหลุมขนาด 15 × 15 × 15 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก 500 กรัมต่อหลุม วางกล้าลึกประมาณ 5 เซนติเมตร กลบดิน และทำค้างสูงจากพื้นดิน 1.75–2 เมตร

 

 

การให้น้ำ

ให้น้ำตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว โดยสังเกตให้ดินเปียกชื้น หากเริ่มแฉะเล็กน้อยให้หยุดให้น้ำ

การให้ปุ๋ย

ใส่ปุ๋ยคอกอัตรา 500 กรัมต่อต้น และพรวนดินรอบโคนต้น เดือนละครั้ง

การป้องกันและกำจัดศัตรูอัญชัน

ใช้บาซิลลัสทูริงเยนซิส อัตรา 60 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร ผสมสารจับใบ พ่นป้องกันกำจัดหนอนใยผักเมื่อเริ่มพบการระบาด ควรพ่นช่วงเย็นหลังเวลา 15.00 น.

การเก็บเกี่ยว

อายุเก็บเกี่ยวครั้งแรกหลังปลูก 34 วัน เก็บดอกที่บานเต็มที่ในช่วงเช้า และสามารถทยอยเก็บได้ทุกวัน
 

ขอบคุณ กรมวิชาการเกษตร