สธ.เดินหน้าแผนฉุกเฉิน ยกระดับรับมือเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา

สธ.เร่งอพยพผู้ป่วยและปิดโรงพยาบาลในโซนสีแดงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมเตรียมแผนรับมือ Worst Case หากสถานการณ์ลุกลามถึงสีส้ม
กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้าปรับแผนฉุกเฉิน ยกระดับตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ระดับ 2 เพื่อรับมือความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสถานการณ์ยังคงมีความเสี่ยงสูงในหลายจุด ทำให้ต้องเร่ง อพยพผู้ป่วยในพื้นที่สีแดง และ ปิดโรงพยาบาลที่อยู่ในรัศมีอันตรายทันที โดยเป็นมาตรการเชิงรุกเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าได้นำแผนรับมือความรุนแรงเดิมมาปรับใช้ใหม่ พร้อมแบ่งพื้นที่เสี่ยงเป็น 3 ระดับ ได้แก่ สีแดงระยะ 20 กม. สีชมพู 50 กม. และสีส้ม 100 กม. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการวางระบบ แผนป้องกันและรับมือภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
สำหรับการอพยพผู้ป่วยขณะนี้ดำเนินการแล้วใน 4 จังหวัดข้างชายแดน โดยโรงพยาบาลในโซนสีแดงต้องปิดบริการทันที เช่น รพ.กันทรลักษ์ ซึ่งต้องย้ายผู้ป่วยกว่า 120 รายออกสู่พื้นที่ปลอดภัย ข้อมูลพบว่าผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นแล้วถูกส่งกลับบ้าน ส่วนผู้ที่ยังต้องการดูแลถูกเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลที่ปลอดภัยนอกเขตเสี่ยง
ด้าน นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัด สธ. เปิดเผยว่า สสจ.ทั้ง 4 จังหวัดได้สำรองเตียง ICU เตียงผู้ป่วยทั่วไป คลังเลือด และยาเวชภัณฑ์ไว้พร้อม รองรับการขยายผลกระทบ นอกจากนี้ยังมีระบบดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้ป่วยฟอกไต และการจัดรถรับส่งกรณีผู้ป่วยไม่มีพาหนะ รวมถึงการจัดทีมปฏิบัติการในพื้นที่ เช่น MERT ทีมสอบสวนโรค ทีมควบคุมโรค และทีมดูแลด้านจิตใจ
แผน Worst Case หากสถานการณ์ลุกลาม
สธ.เตรียมรับมือหากความรุนแรงขยายไปถึงพื้นที่สีส้มในรัศมี 100 กม. ซึ่งอาจกระทบโรงพยาบาลใน 7 จังหวัดชายแดน และอาจมีผู้อพยพเพิ่ม 1–2 เท่า พร้อมคาดว่าต้องย้ายผู้ป่วยประมาณ 700 คนเข้าสู่โรงพยาบาลในจังหวัดด้านใน เช่น ร้อยเอ็ด ขอนแก่น และนครราชสีมา ทั้งนี้แม้สถานการณ์ยังอยู่ในระดับพื้นที่สีแดง แต่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้รับคำสั่งเตรียมพร้อมเต็มรูปแบบเพื่อรองรับ การขยายตัวของสถานการณ์ฉุกเฉิน




















