อดีตไอดอล หลังตัดสินใจแต่งงานกับแฟนคลับ ทำคนดูกลั้นน้ำตาไม่อยู่

รายการโทรทัศน์ญี่ปุ่น “ตามคุณกลับไปที่บ้าน” ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตของคนธรรมดาในแง่มุมที่ทั้งอบอุ่นและสะเทือนใจ ได้เปิดเผยเรื่องราวของ “เซระ” อดีตไอดอลสาววัย 29 ปี ที่ต้องเผชิญกับบททดสอบชีวิตครั้งใหญ่ ทั้งความรักต่างวัย การถูกครอบครัวคัดค้าน และโรคร้ายที่พลิกชะตาชีวิตเธอไปอย่างสิ้นเชิง

ย้อนกลับไปเมื่อ 4 ปีก่อน ทีมงานรายการได้พบกับ “นากิ ซาโตะ” ชายวัย 42 ปี ในย่านมัตสึโด จังหวัดชิบะ ก่อนเขาจะพาทีมงานไปถ่ายทำที่บ้านพร้อมเล่าเรื่องนี้ให้ภรรยาฟังด้วยความตื่นเต้น ภรรยาของเขาคือ “เซระ” วัย 25 ปี ในตอนนั้น เธออายุน้อยกว่าสามีถึง 17 ปี ความรักของทั้งคู่เคยถูกคัดค้านอย่างหนัก แต่พวกเขาเลือกใช้ชีวิตร่วมกันในห้องเช่าเล็ก ๆ ค่าเช่า 64,000 เยนต่อเดือน (ประมาณ 13,000 บาท) พร้อมลูกสาววัยเพียง 6 เดือน เซระเป็นแม่บ้านเต็มเวลา คอยดูแลทั้งบ้านและลูกอย่างเต็มที่

 

ก่อนเป็นแม่บ้าน เซระเคยเป็นไอดอลใต้ดิน ทำกิจกรรมร้องเต้นกับเพื่อนอีก 3 คน ขณะที่ซาโตะคือหนึ่งในแฟนคลับที่คอยสนับสนุนเธอเสมอ ซื้อสินค้า ซื้อตั๋วเพียงเพื่อได้ถ่ายรูปหรือพูดคุยกับเธอไม่กี่นาที เมื่อวงแตกเพราะความขัดแย้ง เซระได้ทิ้งข้อมูลติดต่อให้แฟนคลับบางคน หนึ่งในนั้นคือซาโตะ ซึ่งนำไปสู่ความสัมพันธ์จากไอดอล - แฟนคลับ สู่คู่รักที่เข้าใจและสนับสนุนกันเต็มที่

 

แต่ครอบครัวเซระ โดยเฉพาะพ่อ คัดค้านอย่างหนักเพราะไม่พอใจทั้งอาชีพไอดอลและแฟนหนุ่มที่อายุมากกว่า ถึงขั้นประกาศว่า “ไม่ต้องการเห็นหน้าเขา” จนสุดท้ายเซระตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปแต่งงานและสร้างครอบครัวใหม่ แม้มีลูกด้วยกัน พ่อแม่ของเธอก็ยังไม่ยอมรับ เธอเคยฝากข้อความผ่านรายการว่าอยากคืนดีกับที่บ้าน ขอให้พ่อยอมเป็นคุณตาของลูกสาวด้วย แต่ก็ไม่มีคำตอบกลับมาเลย

 

ไม่กี่ปีต่อมา เซระพบก้อนแข็งที่ข้อเท้า ก่อนแพทย์ตรวจพบว่าเป็น “มะเร็ง” แม้มีอายุเพียง 26 ปี ระหว่างรับยารักษา เธอผมร่วง คิ้วและขนตาหลุดร่วงหมด แม้แต่การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เหนื่อยล้า

เธอตัดสินใจรวบรวมความกล้าติดต่อกลับไปหาครอบครัวอีกครั้ง คราวนี้พ่อของเธอที่เคยตัดสัมพันธ์กลับเปลี่ยนท่าทีทันที เขามาเยี่ยมบ่อยครั้ง ช่วยดูลูกน้อย พาไปเล่น ซื้อของเล่นให้ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ความสัมพันธ์เริ่มกลับมาดีขึ้น

ช่วงหนึ่ง รายการเปิดเผยว่า พ่อของเซระและซาโตะพบกันครั้งแรกในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ผ่านเพียงการพยักหน้าและพูดคุยสั้น ๆ เรื่องหลาน แต่นั่นเป็นสัญญาณว่า พ่อของเธอ “ยอมรับ” ลูกเขยแล้วอย่างแท้จริง

เมื่อความสัมพันธ์กำลังกลับมาสวยงาม อาการของเซระกลับทรุดลงอย่างหนัก มะเร็งลุกลามสู่ระยะ 4 เซลล์กระจายทั่วร่างกาย ทำได้เพียงเฝ้าติดตามอาการ เธอเล่าว่า ในชีวิตเคยไล่ตามความฝัน เคยรักอย่างกล้าหาญ แต่ต้องสูญเสียครอบครัวไปชั่วหนึ่ง ก่อนจะได้กลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง ทว่ากลับต้องต่อสู้กับโรคร้ายที่พรากสุขภาพของเธอไป

แม้ต้องเผชิญเรื่องโหดร้ายมากมาย เซระยังมองโลกในแง่ดี เธอกล่าวว่า “ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ ถ้าเราโฟกัสด้านบวกมากกว่า เราก็จะใช้ชีวิตได้ดีขึ้น”

คำพูดของเธอทำให้ผู้ชมในญี่ปุ่นจำนวนมากถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะเรื่องราวชีวิตของเซระเต็มไปด้วยความอบอุ่น ความเจ็บปวด และความหวังที่ผสมกันอย่างลึกซึ้ง ไม่อาจคาดเดาว่าจะพลิกผันไปในทิศทางใด

เรื่องราวของเธอได้สะท้อนถึงคุณค่าของครอบครัว ความรัก และความเข้มแข็งของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่เคยยอมแพ้ แม้ต้องเผชิญบททดสอบที่หนักที่สุดในชีวิตก็ตาม

ข้อมูลจาก Hk01