“เตือนด่วน! รถไฟฟ้าถูกน้ำท่วม อย่าทำสิ่งนี้เด็ดขาด!”

แนะวิธีรับมือ รถไฟฟ้าถูกน้ำท่วม อย่างปลอดภัย ทั้งสิ่งที่ต้องทำ สิ่งที่ห้ามทำ ข้อควรระวัง และขั้นตอนติดต่อประกัน พร้อมคำแนะนำช่างผู้เชี่ยวชาญ EV
เมื่อเกิดเหตุ รถไฟฟ้าถูกน้ำท่วม ไม่ว่าจะจอดแช่น้ำหรือขับลุยน้ำลึก เจ้าของรถต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย และลดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าแรงสูงของรถ EV
สิ่งที่ห้ามทำเด็ดขาด เมื่อรถไฟฟ้าถูกน้ำท่วม
1. ห้ามสตาร์ทรถหรือกดปุ่มสตาร์ท
การเปิดระบบในขณะที่น้ำอาจเข้าไปถึงส่วนไฟฟ้าเสี่ยงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและความเสียหายรุนแรง
2. ห้ามพยายามขับต่อไป
หากระดับน้ำสูงกว่า 30–40 เซนติเมตร หรือท่วมถึงพื้นห้องโดยสาร ไม่ควรเดินทางต่อ
3. ห้ามถอดสายไฟหรือเปิดฝาแบตเตอรี่เอง
ระบบไฟฟ้าแรงสูงของ EV มีความอันตราย ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเท่านั้น
4. ห้ามชาร์จรถเด็ดขาด
ห้ามเสียบชาร์จจนกว่าจะผ่านการตรวจประเมินจากศูนย์บริการหรือเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ
สิ่งที่ควรทำทันที หลังรถไฟฟ้าถูกน้ำท่วม
1. หยุดใช้งานและออกจากรถอย่างปลอดภัย
หากยังขับอยู่ให้หามุมที่ปลอดภัยแล้วลงจากรถทันที
2. ถ่ายรูป–วิดีโอหลักฐานความเสียหาย
เพื่อประกอบการ เคลมประกันน้ำท่วมรถ EV
3. ติดต่อบริษัทประกันภัยทันที
แจ้งเหตุการณ์และสอบถามขั้นตอนดำเนินการ
4. เรียกรถยก/รถสไลด์เท่านั้น
เพื่อป้องกันล้อหมุนที่อาจทำให้มอเตอร์หรือระบบขับเคลื่อนเสียหายเพิ่ม
แนะนำให้ให้บริษัทประกันหรือศูนย์บริการจัดหารถสไลด์ที่เหมาะสม นำรถไปยังอู่หรือศูนย์ที่เชี่ยวชาญ ซ่อมรถไฟฟ้า
หลังจากการลุยน้ำ (ระดับน้ำไม่สูงมาก)
หากจำเป็นต้องขับลุยน้ำตื้น (ไม่เกิน 30 ซม.) และรถยังใช้งานได้ เมื่อพ้นพื้นที่แล้วควร:
- ทดสอบระบบเบรก
เหยียบเบรกเบาๆ หลายครั้งเพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรกและจานเบรก
- นำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการทันที
แม้รถ EV จะมีมาตรฐานกันน้ำ เช่น IP67 แต่ยังต้องตรวจสอบความชื้นที่อาจตกค้างในแบตเตอรี่ มอเตอร์ และระบบไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยระยะยาว



















