วิธีสังเกตไฟฟ้ารั่วในน้ำและแนวทางป้องกันช่วงน้ำท่วม

วิธีสังเกตสัญญาณ ไฟรั่วในน้ำ พร้อมแนวทางป้องกันอันตรายช่วงน้ำท่วม ลดความเสี่ยงไฟฟ้าดูด ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของทุกคน
ช่วงที่น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคือ ไฟรั่วในน้ำ ซึ่งเป็นภัยเงียบที่อันตรายถึงชีวิต การรู้เท่าทันและป้องกันอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง
วิธีสังเกตไฟรั่วในน้ำ ขณะลุยน้ำ
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากมีไฟรั่วในบริเวณน้ำขัง มักปรากฏสัญญาณสำคัญดังนี้
1. ผิวน้ำมีฟองอากาศผุดอย่างต่อเนื่อง
หากเห็นลักษณะคล้ายน้ำโซดา มีฟองผุดขึ้นเป็นจุดๆ แบบไม่หยุด นั่นคือหนึ่งในสัญญาณชัดเจนว่ามีกระแส ไฟฟ้ารั่วไหล ลงน้ำบริเวณนั้น
2. ร่างกายมีอาการคันยิบๆ หรือเหน็บชา
ขณะเดินลุยน้ำ หากรู้สึกขาชาหรือคันแปลกๆ อาจหมายถึงคุณกำลังเข้าใกล้บริเวณที่มีไฟรั่ว ควรหยุดทันที
สิ่งที่ต้องทำทันทีเมื่อสงสัยว่าไฟรั่ว
- หยุดเดินและถอยกลับ ไปยังจุดที่ปลอดภัย
- ห้ามเข้าใกล้ บริเวณที่มีฟองอากาศในรัศมี 1–2 เมตร
- ห้ามสัมผัสโลหะ เช่น เสาไฟฟ้า ราวสะพาน หรือโครงเหล็กทุกชนิด เพราะโลหะนำไฟฟ้าได้ดีมาก
วิธีป้องกันไฟรั่วและอันตรายจากไฟฟ้าดูด
การป้องกันที่ดีช่วยลดความเสี่ยงได้มาก โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
1. ติดตั้งระบบไฟที่ได้มาตรฐาน
- ติดตั้งสายดิน (Grounding System)
เพื่อให้กระแสไฟรั่วไหลลงดินแทนการผ่านร่างกาย
- ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว (RCD/ELCB)
ควรใช้แบบคุณภาพดี โดยเฉพาะเบรกเกอร์กันดูด ขนาด 30 mA สำหรับวงจรย่อย เพื่อให้ตัดไฟทันทีเมื่อเกิดไฟรั่วระดับอันตราย
2. หลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงช่วงน้ำท่วม
- ไม่เข้าใกล้ตู้ควบคุมไฟฟ้าหรือเสาไฟฟ้าริมถนน
- หลีกเลี่ยงการจับโลหะทุกชนิดเมื่อต้องเดินลุยน้ำ
- ตรวจสอบ ปลั๊กพ่วง-สายไฟเสื่อมสภาพ และรีบเปลี่ยนทันที
การจัดการเมื่อรู้ว่าจะมีน้ำท่วม
- ตัดกระแสไฟฟ้า โดยสับคัตเอาท์หรือเบรกเกอร์หลักของบ้าน
- หากพบเห็นไฟรั่วในพื้นที่สาธารณะ เช่น เสาไฟฟ้าข้างทาง ให้รีบ แจ้งการไฟฟ้าในพื้นที่ทันที



















