น้ำท่วมใต้ยังวิกฤต 239,000 ครัวเรือน กว่า 645,000 คนได้รับผลกระทบ

สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ยังคงมีระดับน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ติดลำน้ำสายหลัก ได้แก่ สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา ปัตตานี และยะลา ประชาชนได้รับผลกระทบ ยังอยู่ที่ประมาณ 239,000 ครัวเรือน (กว่า 645,000 คน) หลายพื้นที่น้ำทรงตัว–บางพื้นที่ยังเพิ่มขึ้น ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 4 ยังคงปักหลักช่วยเหลือประชาชนร่วมกับอีกหลายภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง

สรุปภาพรวมการช่วยเหลือประชาชนที่สำคัญ ของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 4 ดังนี้

1. จ.สงขลา โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 42

- ป.5 พัน.5 จัดรถครัวสนามพร้อมด้วยกำลังพล ทำข้าวกล่องแจกจ่ายในพื้นที่ อ.ระโนด จัดกำลังพลช่วยเหลือในการช่วยขนกระสอบทรายเพื่อขวางทางน้ำและเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง มอบยาสามัญประจำบ้าน ในพื้นที่ ม.3 ต.ท่าบอน อ.ระโนด ติดตามสถานการณ์ ตั้งเต็นท์เพื่อเตรียมอพยพสัตว์ และช่วยขนของขึ้นที่สูง ในพื้นที่ ม.7 ต.คูขุด, ม.2 ม.3 ต.คลองรี อ.สทิงพระ และ ต.โรง อ.กระแสสินธุ์, จัดรถ FTS พร้อมกำลังพล ในการสนับสนุน มทบ.42 ช่วยเหลือพื้นที่ อ.หาดใหญ่ สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ อ.ระโนด ระดับน้ำสูงขึ้นทั่วทั้งพื้นที่ ต.คลองแดน ต.ปากแตระ ต.ท่าบอน ต.บ้านขาว อ.สทิงพระ ระดับน้ำสูงขึ้นทั่วทั้งพื้นที่ ใน ต.คูขุด และ ต.คลองรี และ อ.กระแสสินธุ์ ระดับน้ำสูงขึ้น ในบางพื้นที่ต้องขนของขึ้นที่สูง ถนนสายหลักใช้งานได้ปกติ

- พัน.มทบ.42 แจกข้าวกล่องและน้ำดื่ม พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายประชาชนที่ติดค้างอยู่ในบ้าน และโรงแรม ไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา เเจกน้ำดื่ม อาหาร เเละสนับสนุนในการเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้เเก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

- ช.พัน.401 พล.พัฒนา 4 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จัดกำลังพลและยานพาหนะเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เเจกจ่ายอาหาร และน้ำดื่ม พร้อมทั้งเคลื่อนย้ายประชาชนไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย

2. จ.ตรัง โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 43

- ร.15 พัน.4 นำกำลังลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ต.ควนธานี อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมทั้ง ขนย้ายสิ่งของ ของผู้ประสบภัยน้ำท่วมไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย โดยร่วมกับหน่วยงานราชการท้องถิ่น ในพื้นที่และร่วมกางเต็นท์เพิ่มเติมที่พักพิงชั่วคราว ให้กับผู้ประสบภัย

3. จ.ปัตตานี โดย ศบภ.มทภ.46

- ร.153 พัน.1 ช่วยเหลือประชาชน และหญิงตั้งครรภ์ จำนวน 1 ราย อายุ 32 ปี จากโรงพยาบาลกะพ้อ ไปยังโรงพยาบาลสายบุรี จ.ปัตตานี ให้การช่วยเหลือประชาชน ในการขนย้ายสิ่งของ และร่วมกันจัดเตรียมโรงครัวประกอบอาหารเพื่อเตรียมพร้อมการประกอบอาหารแจกจ่ายให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่

- ส.พัน.15 พล.ร.15 สนับสนุนกำลังพล เรือท้องแบน และสิ่งของจำเป็นสำหรับเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และประชาชนที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้หากเกิดอุทกภัย ณ อาคารเอนกประสงค์ ที่ว่าการอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี

- ร.153 พัน.3 จัดกำลังพลชุดช่วยเหลือประชาชนอพยพชาวบ้าน, ผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลยะหริ่ง ไปยังศูนย์อพยพ ณ ที่ว่าการอำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี และเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุทกภัยและสิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัยเนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

- นฝ.นศท.มทบ. 46 นศท.จิตอาสาพระราชทาน ช่วยเคลื่อยย้ายผู้ป่วย นายเจะโซะ เจะหะ อายุ75 ผู้ป่วยเส้นเลือดแดงท้องโป่งผอง จาก รพ.ปะนาเระ ส่งตัวรักษา ที่ รพ.ปัตตานี

4. จ.ยะลา โดย ศบภ.มทบ.46

- ร.152 พัน.3 ให้การช่วยเหลือประชาชนโดยการเคลื่อนย้ายผู้ประสบอุทกภัย และสิ่งของไปยังศูนย์พักพิง บก.ควบคุม.อส.จชต.ท่าสาป เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น และ ต.ท่าสาป และ ต.พร่อน อ.เมือง จ.ยะลา

พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับให้หน่วยทหารในพื้นที่ยังคงรักษาความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง ให้รายงานสถานการณ์และความต้องการเร่งด่วนของประชาชนในแต่ละอำเภอแบบรายวัน ให้ความสำคัญต่อผู้สูงอายุ เด็ก ผู้พิการ และผู้ป่วยเป็นพิเศษระหว่างการอพยพหรือให้การช่วยเหลือ หลังระดับน้ำเริ่มลด ให้ทุกหน่วยเตรียมชุดฟื้นฟูและทำความสะอาดพื้นที่ประชาชนทันที

ทั้งนี้ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 4 รวมถึงมูลนิธิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานความมั่นคง และภาคส่วนต่าง ๆ ยังคงเร่งระดมสรรพกำลังเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งในด้านการอพยพ การส่งอาหาร–น้ำดื่ม การดูแลด้านการแพทย์ และอื่น ๆ สำหรับพี่น้องประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ตอนนี้หน่วยทหารและทุกภาคส่วนลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขอให้แสดงทัศนสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ทราบ เช่น ส่งเสียง โบกผ้า โบกมือ หรือใช้แสงไฟส่งสัญญาณ หรือแจ้งพิกัดให้ชัดเจนผ่านผู้นำชุมชน เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด และสามารถขอความช่วยเหลือที่เบอร์โทร 0 7458 6685, 0 7423 2145-8, 09 8223 3364 และ 06 1586 5574

กองทัพภาคที่ 4 และทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องขอยืนยันว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชนจนกว่าสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้จะคลี่คลาย และเราจะข้ามผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

ที่มา : กองทัพบก Royal Thai Army