สกัดด่วน ไข่ไก่มีเชื้อ 3.5 แสนฟอง ลอบเข้าไทย เสี่ยงแพร่โรค

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายชลิตฯ อายุ 32 ปี แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 ลักลอบขนไข่ไก่มีเชื้อเข้าไทย

 

 

เข้าข่ายความผิด

1. นำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 31 วรรคหนึ่ง, 68 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

2. เคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 22, 65 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. เป็นผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 มาตรา 246 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ

พร้อมตรวจยึดของกลางไข่ไก่จำนวน 980 ลัง ลังละ 360 ฟอง รวมประมาณ 352,800 ฟอง รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดประมาณ 5,292,000 บาท พบอยู่ภายในห้องเย็นของรถบรรทุกยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หัวลากและพ่วง

สถานที่จับกุม หน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ม. 2 ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบนำเข้า “ไข่ไก่มีเชื้อ” (Fertile Eggs) จากต่างประเทศ ผ่านช่องทางผิดกฎหมาย เพื่อนำไปฟักเป็นลูกไก่ในโรงฟักพื้นที่จังหวัดสระบุรี ก่อนกระจายสู่ฟาร์มและประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558

 

ไข่ประเภทนี้ หากไม่มีการตรวจโรคหรือผ่านการกักกัน อาจเป็นพาหะนำโรคอันตราย เช่น ไข้หวัดนก นิวคาสเซิล หรือโรคติดเชื้อในไก่อื่น ๆ ที่สามารถทำลายทั้งฟาร์มและอุตสาหกรรมสัตว์ปีกของประเทศได้ในวงกว้าง โดยใช้รถบรรทุกห้องเย็นยี่ห้อฮีโน่ สีขาว เพื่อส่งให้โรงฟักในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ให้เป็นลูกไก่ แล้วนำจำหน่ายให้แก่ประชาชนทั่วไป ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558

ต่อมา ชุดเจ้าหน้าที่ได้ติดตามรถต้องสงสัยซึ่งผ่านด่านสัตว์เพชรบุรี จนเข้าไปในโรงฟักไข่ไก่ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบนายชลิตฯ อายุ 32 ปี แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ และพบไข่ไก่มีเชื้อ จำนวน 980 ลัง ลังละ 360 ฟอง รวมประมาณ 352,800 ฟอง ตีมูลค่ารวมประมาณ 5,292,000 บาท อยู่ภายในห้องเย็นรถบรรทุกฯ

 

 

สอบถามนายชลิตฯ ให้การว่าขนไข่ไก่มาจากท่าเรือน้ำลึก จ.สงขลา เพื่อนำไปส่งที่โรงฟักในพื้นที่จังหวัดสระบุรี โดยนายชลิตฯ ไม่สามารถแสดงเอกสารสำคัญได้ ได้แก่ ใบอนุญาตนำเข้าสัตว์หรือซากสัตว์, ใบอนุญาตเคลื่อนย้ายสัตว์หรือซากสัตว์ และเอกสารศุลกากรใด ๆ มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด

เจ้าพนักงานชุดดังกล่าวจึงได้ตรวจยึดไข่ไก่มีเชื้อดังกล่าวทั้งหมด พร้อมเก็บตัวอย่างไข่ไก่จำนวน 30 ฟอง ไปส่งตรวจที่ห้องปฏิบัติการเพื่อหาเชื้อโรคระบาด ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 พร้อมนำรถยนต์บรรทุกฯ ไปเก็บรักษาไว้ที่ศูนย์ราชการกรมปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560

จากข้อมูลและสถานการณ์ปัจจุบัน พบแนวโน้มการลักลอบเคลื่อนย้ายสัตว์และซากสัตว์โดยไม่ผ่านการควบคุมของเจ้าหน้าที่มีทิศทางเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดที่มีรอยต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งผู้ลักลอบมักอาศัยช่องว่างด้านการตรวจสอบ หรือใช้ช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่บางส่วนลดกำลังลงในการเคลื่อนย้าย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฝ่าฝืนพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 และมาตรา 31

เนื่องจากการลักลอบนำเข้าไข่ไก่มีเชื้อจากต่างประเทศ ถือเป็นความเสี่ยงสูง อาจปนเปื้อนเชื้อโรคระบาดสัตว์ เช่น โรคนิวคาสเซิล, โรคไข้หวัดนก, โรคระบบสืบพันธุ์สัตว์ปีก เป็นต้น หากไข่ไก่มีเชื้อดังกล่าวเข้าสู่ระบบฟัก อาจทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อในฟาร์มเชิงพาณิชย์ ส่งผลต่อเศรษฐกิจปศุสัตว์มูลค่านับพันล้านบาท ซึ่งอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านอาหารของประเทศ สร้างความเสียหายร้ายแรงแก่เกษตรกร และอาจเสี่ยงปนเปื้อนสู่ห่วงโซ่อาหารของผู้บริโภค

โดยการปฏิบัติครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในการป้องกันสินค้าสัตว์เสี่ยงโรคเข้าสู่ประเทศ เพื่อความปลอดภัยของระบบอาหารและสุขภาพของประชาชน