ตร.สุรินทร์เตือนชาวนา ห้ามตากข้าวบนถนนหลวง หลังเกิดเหตุสลด

ผู้การตำรวจสุรินทร์ออกโรงย้ำ เตือนชาวไร่ชาวนาในช่วงหลังฤดูเก็บเกี่ยว ห้ามนำข้าวมาตากบนถนนหลวง ชี้ผิดกฎหมายหลายฉบับและเสี่ยงอันตราย หลังเกิดเหตุสลด
เมื่อวาน 13 พฤศจิกายน 2568 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ฝากเตือนพี่น้องเกษตรกรและชาวไร่ชาวนา ซึ่งเพิ่งเสร็จสิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าว ถึงปัญหาการนำข้าวมาตากบนถนนหลวงว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
การนำข้าวมาตากในเขตทางหลวง ถือว่าผิดตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ. 2535 ซึ่งห้ามมิให้ผู้ใดติดตั้ง วาง แขวน หรือกองสิ่งใดในเขตทางหลวงลักษณะที่กีดขวางหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อยานพาหนะ มีโทษตาม มาตรา 72 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 148 มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
รวมถึง พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 57 มีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
และตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 385 ผู้ใดกีดขวางทางสาธารณะจนเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจร มีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ได้มีหนังสือกำชับไปยังทุกสถานีตำรวจ ให้สร้างความเข้าใจกับชาวบ้านและเกษตรกรถึงอันตรายของการตากข้าวบนถนน หลังเกิดเหตุไม่คาดฝัน นักเรียนชายระดับชั้น ม.6 ในอำเภอชุมพลบุรี ขับขี่รถจักรยานยนต์ชนกองข้าวที่ตากไว้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล
พล.ต.ต.สุคนธ์ย้ำว่า นอกจากการตากข้าวบนถนนจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเสี่ยงถูกขโมยข้าว ซึ่งพบว่ามีมิจฉาชีพลักขโมยในหลายจังหวัดเพิ่มมากขึ้น การนำข้าวมาตากริมทางจึงเสี่ยงทั้งกฎหมายและความเสียหาย
ตำรวจได้ประชาสัมพันธ์ต่อเนื่อง แต่ยังพบการฝ่าฝืนอยู่จำนวนมาก จึงขอความร่วมมือจากเกษตรกรในทั้ง 17 อำเภอของจังหวัด รวมถึงชุมชนต่าง ๆ ให้ช่วยกันจัดลานตากข้าวภายในชุมชน โดยประสานการสนับสนุนกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย




















