เขื่อนปรับเพิ่มการระบายน้ำ เตือน ปชช. พื้นที่เสี่ยงน้ำเจ้าพระยา

นครสวรรค์ – กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำเจ้าพระยา ณ วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 12.00 น. ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 อำเภอเมือง จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 2,988 ลบ.ม./วินาที ขณะที่สถานี Ct.25 แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 174 ลบ.ม./วินาที

 

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและไหลมาสมทบต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” เขื่อนเจ้าพระยาจะทยอยปรับเพิ่มการระบายตั้งแต่เวลา 16.00 น. จากอัตรา 2,800 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,900 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 02.00 น. ของวันพรุ่งนี้ (11 พ.ย. 68) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง

กรมชลประทานขอเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นอกคันกั้นน้ำในจังหวัดดังต่อไปนี้ให้เฝ้าระวังและยกของขึ้นที่สูง:

 

- จังหวัดพระนครศรีอยุธยา: คลองบางบาล, ตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา, ตำบลลาดชิด, ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่, ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา, ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล, ตำบลบ้านโพ อำเภอบางปะอิน, ตำบลประตูชัย อำเภอเมือง

 

- จังหวัดสิงห์บุรี: วัดสิงห์ อำเภออินทร์บุรี, อำเภอเมือง, อำเภอพรหมบุรี, วัดเสือข้าม อำเภออินทร์บุรี, ตำบลอินทร์บุรี อำเภออินทร์บุรี

 

- จังหวัดอ่างทอง: คลองโผงเผง, อำเภอป่าโมก, ตำบลเทวราช อำเภอไชโย, ตำบลตลาดกรวด, ตำบลย่านซื่อ, ตำบลบ้านแห, ตำบลจำปาหล่อ, ตำบลมหาดไทย, ตำบลโพสะ อำเภอเมือง, ตำบลบางจัก, ตำบลสี่ร้อย, ตำบลท่าช้าง, ตำบลไผ่จำศีล, ตำบลศาลเจ้าโรง อำเภอวิเศษชัยชาญ, ตำบลโพธิ์รังนก, ตำบลบ่อแร่, ตำบลบางระกำ, ตำบลองครักษ์ อำเภอโพธิ์ทอง

 

- จังหวัดชัยนาท: ตำบลโพธิ์นางดำออก, บ้านท่าทราย, ตำบลตลุก, ตำบลหาดอาษา, ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา

กรมชลประทานเน้นย้ำให้ประชาชน ติดตามข้อมูลสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือ หากระดับน้ำทางตอนบนเพิ่มสูงขึ้นและส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น

 

นอกจากนี้ ทางกรมชลประทานยังเร่งระบายน้ำผ่าน สถานีสูบน้ำตามแนวคลองชายทะเล และ สถานีสูบน้ำสุวรรณภูมิ ลงสู่อ่าวไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำและป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยง

 

ที่มา : กรมชลประทาน