ขนจุดเดียวที่ห้ามโกน หลังหลายคนเข้าใจผิดหมด นึกว่าโกนแล้วดี

มีการเผยคำเตือนด้านสุขภาพที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงเกี่ยวกับการกำจัดขนบนร่างกาย โดยเฉพาะ “ขนบริเวณอวัยวะเพศ” ซึ่งแพทย์ระบุว่า ไม่ควรโกนทิ้ง เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ซึ่งรายงานจากเว็บไซต์ Unilad เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ระบุว่า ดร.ไมค์ วาร์ชาวสกี หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ดอกเตอร์ไมค์” หมอหนุ่มสุดหล่อที่มักจะให้ความรู้ในโซเชียลบ่อยๆ ได้ตอบคำถามสุขภาพที่หลายคนมักไม่กล้าถาม ในประเด็นเรื่องการโกนขนบางส่วนของร่างกาย โดยเขาชี้ชัดว่า

 

ขนบริเวณอวัยวะเพศ “ไม่ควรโกนทั้งหมดออก”

ดร.ไมค์อธิบายว่า มีงานวิจัยเผยว่า การโกนขนจุดดังกล่าวอาจเพิ่มโอกาสการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STI) เนื่องจากเมื่อไม่มีขนมาช่วยกั้น การเสียดสีของผิวหนังระหว่างมีเพศสัมพันธ์จะมีมากขึ้น ทำให้เชื้อโรคแพร่สู่กันได้ง่ายขึ้น อีกทั้งการโกนอาจทำให้เกิด แผลเล็กๆ บนผิวหนัง ซึ่งกลายเป็นช่องทางให้แบคทีเรียหรือของเหลวในร่างกายเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เสี่ยงติดเชื้อได้มากกว่าเดิม

ในคลิปก่อนหน้านี้ เขายังเคยอธิบายถึง หน้าที่ทางชีววิทยาของขนในบริเวณนี้ ว่า ขนมีลักษณะหนาและหยาบเพื่อช่วย

• ดักจับฟีโรโมน ซึ่งเกี่ยวข้องกับแรงดึงดูดทางเพศตามวิวัฒนาการ
• ปกป้องผิวหนังบริเวณที่บอบบาง
• ลดแรงเสียดสี
• และช่วยดักจับสิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียไม่ให้เข้าสู่ช่องคลอดโดยตรง

ด้าน แคธี่ เบอร์ริส ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านโรคผิวหนัง มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ก็สนับสนุนความเห็นนี้ โดยระบุว่า ขนในจุดลับเปรียบเสมือนเกราะปกป้องตามธรรมชาติ การโกนออกทั้งหมดไม่ช่วยให้สะอาดขึ้นอย่างที่หลายคนเข้าใจ ตรงกันข้ามอาจทำให้ติดเชื้อได้ง่ายกว่าเดิมอีกด้วย

 

 

สรุป

ขนบริเวณอวัยวะเพศมีประโยชน์ต่อทั้งความปลอดภัยของผิวและสุขอนามัย ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อความสวยงาม ดังนั้น หากจะจัดแต่งหรือทำความสะอาด ควรทำอย่างระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการโกนจนหมด

 

ข้อมูลจาก Unilad
ภาพจาก Doctor Mike