ตำรวจสอบสวนกลางสกัดรถขนต่างด้าวเถื่อน พบแรงงานเมียนมา 16 คน

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก., พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล., พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม รอง ผบก.ทล. และ พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ รอง ผบก.ทล.
มอบหมายให้ กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจทางหลวง โดย พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.ฐิติวัสส์ แซมเขียว รอง ผกก.7 บก.ทล., พ.ต.ท.วริศร มัจฉา สวญ.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. และ พ.ต.ท.มนัสวี กะดะแซ สว.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล.
สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. (สงขลา) ปฏิบัติภารกิจตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบ

ต่อมา เจ้าหน้าที่นำโดย ร.ต.อ.ปุณณรัตน์ มุสิกรักษ์ รอง สว.ส.ทล.3 กก.7 บก.ทล. พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการ ได้ร่วมกันจับกุม

1. นายไว สัญชาติเมียนมา อายุ 32 ปี (คนขับรถ)
2. แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 16 คน

พร้อมของกลาง

• รถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน
• โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง

จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณ ถนนสายเอเชีย (ทล.41) กม.ที่ 19–20 ขาออก ต.วิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร

พฤติการณ์การจับกุม

เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงสงขลาออกตรวจพื้นที่บนถนนทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงกิโลเมตรที่ 1222–1223 ต.คูหาใต้ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา พบรถกระบะสีดำ ขับแซงรถเจ้าหน้าที่ไปด้วยท่าทีมีพิรุธ น้ำหนักรถผิดปกติ อีกทั้งหมายเลขทะเบียนตรงกับข้อมูลรถต้องสงสัยในฐานข้อมูลข่าวของตำรวจทางหลวง ซึ่งเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว

เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและส่งสัญญาณให้หยุดเพื่อตรวจสอบ เมื่อตรวจภายในรถพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 16 คน นั่งเบียดกันเต็มคันรถ ส่วนผู้ขับขี่เป็นชายชาวเมียนมา ถือบัตรประจำตัวบุคคลไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู)

จากการตรวจสอบพบว่าแรงงานทั้งหมดเป็นกลุ่มเดียวกับที่ตำรวจทางหลวงรัตภูมิเคยจับกุมเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา และถูกดำเนินคดีในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนถูกผลักดันกลับประเทศเมียนมา ผ่านด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568

แต่หลังจากถูกผลักดันกลับประเทศเพียง 3 วัน แรงงานกลุ่มเดิมได้ลักลอบกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยใช้เส้นทางธรรมชาติบริเวณชายแดนเมียนมา–ไทย จุดด่านเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี ก่อนว่าจ้างนายหน้าในฝั่งเมียนมาและไทยให้ประสานการเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย

คำให้การผู้ต้องหา

นายไว ผู้ขับรถให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากนายหน้าชาวพม่าผ่านคนไทยรายหนึ่ง (ซึ่งเพิ่งถูกจับกุมในคดีลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม) ให้ขับรถกระบะไปรับแรงงานกลุ่มนี้จากบริเวณป่าละเมาะใกล้ด่านสิงขร จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อไปส่งยัง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา โดยได้รับค่าจ้างคนละ 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 16,000 บาท

ผู้ต้องหายังรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทั่วไปและทำหน้าที่ล่ามภาษาพม่าให้กับคนงานก่อสร้างในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรับงานลักลอบขนแรงงาน แต่ยอมทำเพราะเห็นว่าค่าจ้างสูง รถที่ใช้ก่อเหตุเป็นรถที่เช่ามาจากเพื่อนใน จ.สมุทรสาคร

ด้านแรงงานต่างด้าวทั้ง 16 คน ให้การผ่านล่ามว่า หลังถูกผลักดันกลับประเทศได้ไม่นาน พวกตนไม่มีที่อยู่อาศัยในเมียนมา และต้องการเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหางานทำ จึงตัดสินใจลักลอบกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยยอมจ่ายเงินให้ขบวนการนำพาคนละ 20,000 บาท

ข้อกล่าวหา

ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกแจ้งข้อหา “ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือคนต่างด้าวเพื่อให้พ้นจากการจับกุม โดยรู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 64

ผู้ต้องหาที่ 2–17 ถูกแจ้งข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 81