ตำรวจยันชัด"เบน สมิธ"ไม่ใช่ CEO เทียนเทียน ปปง. ตรวจสอบแล้ว ไม่พบฟอกเงิน

ปปง. ตรวจสอบแล้วไม่พบข้อมูลว่า นายเบน สมิธ เคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน ด้าน ตร.ยืนยัน เบน สมิธ ไม่ใช่ CEO เทียนเทียน
กรณี นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนอภิปรายในสภาฯ กล่าวหา นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ และต่อมา นายเบน สมิธ ได้ฟ้อง นายรังสิมันต์ โรม ฐานหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท นั้น
จากการตรวจสอบประเด็นที่ นายรังสิมันต์ โรม กล่าวหา นายเบน สมิธ ว่า เป็นบุคคลที่มีคดีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.กล่าวโทษฐานเสนอขายหุ้นและฉ้อโกงประชาชนโดยใช้บริษัทที่ชื่อว่า Tian Tian ventures หรือ บริษัทเทียน เทียน
ปรากฏว่า กรณีของบริษัทฯ นี้ มีรายงานการสอบสวน พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ระบุไว้มีบุคคลที่มีชื่อว่า นายลอว์เรนซ์ อีวาน เฟลด์แมน อายุ 36 ปี สัญชาติอเมริกัน กระทำผิดเสนอขาย หรือ ขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนหรือบุคคลใดๆ โดยมิได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และข้อหาฉ้อโกงประชาชน เกิดเหตุเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2562
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา นายรังสิมันต์ โรม กล่าวถึง นายเบน สมิธ ระหว่างการอภิปรายนโยบายปราบอาชญากรรมข้ามชาติของรัฐบาลอนุทิน ในสภาฯ ว่า เบน สมิธ เป็นสแกมเมอร์รุ่นดั้งเดิม รวมถึงอ้างว่า มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลอกลวงลงทุนของ Tian Tian Ventures และยังเกี่ยวข้องกับ BIC Bank ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ BIC Group มีประธานบริษัทชื่อว่า นายยิม เลียก ซึ่งเป็นบุตรชายของอดีตรองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
พร้อมทั้งพาดพิงว่า นายเบนสมิธ ถูกคณะกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินคดี เมื่อปี 2564 ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นคนละคนกัน แค่ นายลอว์เรนซ์ อ้างชื่อปลอมที่คล้าย นายเบนจามิน เท่านั้น
ขณะที่มีรายงานว่า นายทอม ไรต์ สื่อมวลชนอิสระ อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าววอลสตรีทเจอร์นัล (WSJ) ที่ นายรังสิมันต์ ใช้เป็นข้อมูลอภิปรายเรื่องสแกมเมอร์ ก็ออกมายอมรับในข้อเขียนเอง โดย นายทอมระบุว่า นายเบนจามิน เบอร์เจอร์ ซึ่งขึ้นไปพูดบนเวทีเพื่อเสนอขายหุ้นบริษัท เทียน เทียน เวนเจอร์ส นั้น แท้จริงแล้วเป็นนักแสดงชื่อว่า นาย Lawrence E. Feldman ครูสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งเคยรับงานแสดงโฆษณาหรือรายการทีวีของจีนเป็นครั้งคราว
ขณะเดียวกัน สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ออกหนังสือตอบกลับลงวันที่ 13 ตุลาคม 2568 ถึง นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ผู้รับมอบอำนาจจาก นายเบน สมิธ หรือ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ (Mr. Benjamin Mauerberger) เพื่อยืนยันข้อมูลกรณีมีการสอบถามว่า นายเบน สมิธ เคยถูกกล่าวโทษ หรือถูกดำเนินคดีโดยสำนักงาน ปปง. หรือไม่
หนังสือดังกล่าวมีเลขที่หนังสือจาก สำนักงาน ปปง. ที่ 422 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 โดยลงนามโดย นายวรเศรษฐ สุรพนานนท์ชัย ผู้อำนวยการกองข่าวกรองทางการเงิน ปฏิบัติราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ในหนังสือระบุว่า ปปง.พิจารณาคำขอตรวจสอบข้อเท็จจริงตามหนังสือของนายธนดล ลงวันที่ 4 ตุลาคม 2568 ซึ่งเป็นการใช้สิทธิตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 มาตรา 38 โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 40 (2)
ผลการตรวจสอบฐานข้อมูลของสำนักงาน ปปง. ไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีการดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานฟอกเงิน หรือว่ามีการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายเบน สมิธ ตามกฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ปปง. ยืนยันว่า ได้ตรวจสอบจากฐานข้อมูลกลางที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีและการยึด-อายัดทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้กฎหมายฟอกเงิน ซึ่งไม่พบชื่อของ นายเบน สมิธ หรือ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ อยู่ในระบบ จึงสรุปได้ว่า ไม่เคยถูกกล่าวโทษหรือถูกดำเนินการตามกฎหมายฟอกเงินแต่อย่างใด
ซึ่ง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ออกหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อยืนยันข้อมูลเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของ นายเบน สมิธ
• หนังสือตอบกลับของ ปปง. ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2568 ถึงผู้รับมอบอำนาจจาก นายเบน สมิธ หรือ นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ เป็นการใช้สิทธิตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
• ผลการตรวจสอบจากฐานข้อมูลกลางที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีและการยึด-อายัดทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้กฎหมายฟอกเงินของ ปปง. ไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีการดำเนินคดีอาญาในความผิดฐานฟอกเงิน หรือมีการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของ นายเบน สมิธ ตามกฎหมายดังกล่าวแต่อย่างใด
• ปปง. สรุปได้ว่า ไม่พบชื่อของ นายเบน สมิธ อยู่ในระบบการดำเนินคดีตามกฎหมายฟอกเงิน และไม่เคยถูกกล่าวโทษหรือถูกดำเนินการตามกฎหมายนี้ หนังสือดังกล่าวลงนามโดย นายวรเศรษฐ สุรพนานนท์ชัย ผู้อำนวยการกองข่าวกรองทางการเงิน




















