"คนละครึ่งพลัส" เตือนระวัง ใช้ผิดประเภทโดนระงับสิทธิทันที

รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล เดินหน้ามาตรการ “คนละครึ่งพลัส” หนึ่งในโครงการสำคัญภายใต้แนวคิด Quick Big Win ด้วยงบประมาณรวมกว่า 44,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจฐานราก และบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน

 

 

หลังเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ปรากฏว่าประชาชนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม จนสิทธิเต็มจำนวน 20 ล้านสิทธิ ตั้งแต่วันแรกที่เปิดลงทะเบียน

เมื่อได้รับสิทธิแล้ว ประชาชนต้อง เติมเงินเข้า G Wallet ในแอปฯ “เป๋าตัง” เพื่อใช้จ่ายร่วมกับเงินสนับสนุนจากภาครัฐ โดยสามารถเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 ระหว่างเวลา 06.00 – 22.00 น.

สิทธิที่ได้รับจาก “คนละครึ่งพลัส”

• กลุ่มผู้เสียภาษี ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ 2,400 บาทต่อคน ตลอดโครงการ
• กลุ่มประชาชนทั่วไป ได้รับเงินสนับสนุน 2,000 บาทต่อคน ตลอดโครงการ
• ใช้สิทธิได้ไม่เกินวันละ 200 บาทต่อคน

 

เงื่อนไขและข้อควรระวัง

 

กระทรวงการคลังย้ำว่า การใช้สิทธิต้องเป็นไปตามที่กำหนด หากนำไปใช้ ผิดประเภท เช่น ซื้อสุรา บุหรี่ สลากกินแบ่งรัฐบาล น้ำมันเชื้อเพลิง บัตรกำนัล หรือชำระค่าสาธารณูปโภค ระบบจะตรวจจับและ ระงับสิทธิการใช้งานทันที

ผู้ได้รับสิทธิสามารถใช้จ่ายได้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ เช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ร้านขายของใช้ประจำวัน ของสดในตลาด ร้านค้าทั่วไป รวมถึงบริการในชีวิตประจำวันบางประเภทที่จดทะเบียนถูกต้องกับกระทรวงการคลัง

 

ร้านค้ารายใหม่ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมได้ผ่านแอปฯ “ถุงเงิน” โดยโครงการ “คนละครึ่งพลัส” เปิดให้ใช้สิทธิได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568

เงื่อนไขสำคัญของการใช้สิทธิ

• ต้องเริ่มใช้สิทธิครั้งแรก ภายในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 23.00 น. หากไม่ใช้ ระบบจะตัดสิทธิ์ทันที
• ใช้สิทธิได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 23.00 น. ผ่าน G Wallet ในแอปฯ “เป๋าตัง”
• การใช้สิทธิผ่าน ฟู้ดเดลิเวอรี จะเริ่มได้ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม 2568 ระหว่างเวลา 06.00 – 21.00 น.

การใช้สิทธิผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี

• ใช้สิทธิได้เฉพาะการสั่งซื้อ อาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น
• รัฐช่วยจ่ายเฉพาะค่าสินค้า ไม่รวมค่าจัดส่งหรือค่าบริการอื่น
• ห้ามแลกเป็นเงินสด หรือเรียกรับผลประโยชน์อื่นนอกเหนือจากการซื้อสินค้า
• ผู้ซื้อและผู้ขายต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกัน และต้องอยู่คนละสถานที่
• การซื้อขายต้องเป็น การทำธุรกรรมจริงผ่านระบบของแพลตฟอร์ม

โครงการ “คนละครึ่งพลัส” นับเป็นหนึ่งในนโยบายเรือธงของรัฐบาล ที่มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ พร้อมช่วยแบ่งเบาค่าครองชีพของประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม