ตร.ไซเบอร์จับร้านค้าออนไลน์ลอบขายชิ้นส่วนปืน จับยกร้าน 4 ราย

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.3 ได้สืบสวนพบการลักลอบจําหน่ายสินค้าประเภทท่อหรือลำกล้องปืน อุปกรณ์เกี่ยวกับอาวุธปืน และลูกกระสุนปืน ผ่านแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง โดยมีการตั้งชื่อสินค้าเป็นสินค้าประเภทอื่น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทดลองสั่งซื้อสินค้าดังกล่าว ต่อมา พบว่าพัสดุถูกส่งมาจากพื้นที่ อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับสินค้าแล้ว จึงได้ส่งสินค้าในพัสดุไปตรวจพิสูจน์ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ผลตรวจพิสูจน์พบว่า สินค้าดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนอาวุธปืนประเภทลำกล้องและมีเกลียวด้านใน จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดร้อยเอ็ดออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องและหมายค้นพื้นที่เป้าหมาย

ต่อมา พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเปิดปฏิบัติการ “Cyber 3 Gun Bust ล็อกดาวน์ปืนออนไลน์” โดยร่วมกันออกติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการดังกล่าว กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ได้แก่

1. น.ส.จิราพร อายุ 47 ปี เจ้าของบัญชีแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์

2. นายอุดม อายุ 47 ปี สามีของ น.ส.จิราพร ผู้ผลิตชิ้นส่วนดังกล่าว

ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 2 จุด ใกล้เคียงกัน ในพื้นที่ถนนเนืองประดิษฐ์ ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านที่ใช้จัดส่งพัสดุและบ้านพักของผู้จัดส่งพัสดุ โดยสามารถตรวจยึดของกลาง จำนวน 677 รายการ อาทิ อาวุธปืน, เครื่องกระสุน, ท่อทองเหลืองขึ้นเกลียว, โครงปืนลูกเลื่อน, ชุดโก่งไกปืน, ข้อต่อพันท้ายปืน, พันท้ายปืน, คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เป็นต้น โดยสามารถจับกุม

1. น.ส.ดวงจันทร์ อายุ 44 ปี ผู้ทำหน้าที่แพ็คสินค้าเพื่อนําไปส่งยังบริษัทขนส่งเอกชน

2. นายชุมพล อายุ 48 ปี ผู้ทำหน้าที่ควบคุมเครื่องจักรกลึงอลูมิเนียม ขึ้นเกลียว และชักลํากล้องสำหรับผลิตชิ้นส่วนอาวุธปืน

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดี น.ส.จิราพร เจ้าของบัญชีแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ ในข้อหา “มี หรือ จำหน่ายซึ่งอาวุธปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และ “นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”

ส่วนนายอุดม (สามีของ น.ส.จิราพร), น.ส.ดวงจันทร์ (ลูกจ้างของ น.ส.จิราพร) และ นายชุมพล (ลูกจ้างของ น.ส.จิราพร) โดนดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันมี หรือ จำหน่าย ซึ่งอาวุธปืนสำหรับการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน”, “ร่วมกันทำ ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้าซึ่งอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่” และ “ร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”

จากการตรวจค้นจับกุมดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนขยายผลไปยังผู้ที่สั่งซื้อสินค้าล่าสุด จำนวน 2 ราย โดยสามารถขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดมหาสารคาม เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.13 ต.ท่าสองคอน อ.เมืองมหาสารคาม จ.มหาสารคาม สามารถจับกุม นายอนุชิต อายุ 41 ปี พร้อมด้วยของกลางเป็น ท่อเก็บเสียงอาวุธปืน จำนวน 1 รายการ จึงจับกุมในข้อหา “มีซึ่งเครื่องยุทธภัณฑ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ฯ”

ส่วนอีกราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดชุมแพออกหมายค้น เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านพักในบ้านสวนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.13 ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น สามารถจับกุม นายจิรเมท อายุ 18 ปี พร้อมของกลาง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ อาวุธปืนยาวอัดลม กระสุนปืนลูกซอง และกระสุนปืน(หัวเห็ด) จึงจับกุมในข้อหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน”

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามตัวผู้ร่วมเครือข่ายรายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีแพลตฟอร์ร้านค้าออนไลน์ที่ลักลอบขายสินค้าผิดกฎหมาย เพื่อตรวจยึดของกลางและนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ที่มา : ตำรวจไซเบอร์ – บช.สอท.