เขื่อนเจ้าพระยาเสี่ยง4 เขื่อนหลักมีน้ำทะลุ 94% เร่งระบายรับฝน

วันที่ 13 ตุลาคม 2568 — กรมชลประทาน รายงาน สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา เข้าขั้นวิกฤต หลัง 4 เขื่อนหลักมีปริมาณน้ำรวมสูงถึง ร้อยละ 94 ของความจุอ่างฯ เร่งบริหารจัดการน้ำโดยคงอัตราการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไว้ที่ 2,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (ลบ.ม./วินาที) พร้อมจับตา ฝนตกหนัก ช่วงวันที่ 14–19 ตุลาคมนี้


4 เขื่อนหลักเจ้าพระยาใกล้เต็ม

รายงานล่าสุดจาก ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) ระบุว่า 4 เขื่อนใหญ่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำรวมกว่า 23,293 ล้าน ลบ.ม. หรือ 94% ของความจุอ่างฯ เหลือพื้นที่รับน้ำได้อีกเพียง 1,583 ล้าน ลบ.ม.

ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 นครสวรรค์ อยู่ที่ 2,639 ลบ.ม./วินาที และน้ำที่ปล่อยท้ายเขื่อนเจ้าพระยา (สถานี C.13 ชัยนาท) ยังคงระบายที่ระดับ 2,300 ลบ.ม./วินาที ซึ่งระดับน้ำท้ายเขื่อนยังต่ำกว่าตลิ่งราว 87 เซนติเมตร

เฝ้าระวังฝนหนักกลางเดือนตุลา

กรมอุตุนิยมวิทยา เตือนว่า ประเทศไทยจะมี ฝนตกหนักต่อเนื่อง 2 ระลอก

- ช่วง 14–16 ต.ค. ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางตอนบนจะมีฝนเพิ่มขึ้น

- ช่วง 17–19 ต.ค. ภาคกลางตอนล่าง รวมถึง กรุงเทพฯ ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ยังมีฝนตกหนักบางแห่ง จากอิทธิพลของร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำ

กรมชลฯ เร่งบริหารน้ำลดผลกระทบ

กรมชลประทาน ยืนยันว่า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับแผนการระบายให้สอดคล้องกับ ปริมาณฝนและน้ำท่า เพื่อจำกัดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำและชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยาให้น้อยที่สุด

ประชาชนสามารถติดตามข้อมูล สถานการณ์น้ำ แบบเรียลไทม์ได้ที่ wmsc.rid.go.th และ bigdata-swoc.rid.go.th