แม่ยายยืมทองผ่านไป 5 ปี ไปขอคืน กลับพูดไม่คิด พีกสิ่งที่ลูกเขยทำ

แม่ยายยืมทองผ่านไป 5 ปี ลูกเขยไปขอคืน กลับบอกว่าจะให้เป็นเงินสดเท่าราคาทองในอดีต สิ่งที่ลูกเขยพูดพีกกว่าที่คิด
กลายเป็นเรื่องราวที่ได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ หลังชายชาวเวียดนามวัย 40 ปี ออกมาเล่าประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้ต้องทบทวนความหมายของคำว่า “ครอบครัว” อีกครั้ง เมื่อแม่ยายขอยืมทองคำจากงานแต่งไปใช้แก้ปัญหาภายในบ้าน และเมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี เขากลับได้รับคำตอบที่ไม่คาดคิด
ชายคนนี้เล่าว่า เขาและภรรยาแต่งงานกันเมื่อ 5 ปีก่อน ทั้งคู่มีงานมั่นคง เขาทำงานในสายเทคนิค ส่วนภรรยาเป็นพนักงานบัญชี ในวันแต่งงาน ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายมอบทองคำ 5 บาท เป็นของหมั้นและของขวัญแทนคำอวยพร
แต่เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากพิธี แม่ยายได้มาขอยืมทองคำทั้งหมด โดยบอกว่าจะนำไปใช้เป็นค่าเล่าเรียนของลูกชายคนเล็ก พร้อมสัญญาว่าจะคืนให้เมื่อมีเงิน เขาและภรรยาเห็นว่าเป็นเรื่องของครอบครัว จึงยอมให้ยืมด้วยความเต็มใจ
“พวกเธอสองคน แม่ต้องหาเงินมาจ่ายค่าเล่าเรียนน้องชายของเธอ แม่จะยืมทองของพวกเธอไปก่อน เมื่อจัดการได้ แม่จะคืนให้เต็มจำนวน”
แต่เมื่อเวลาผ่านไป 5 ปี เขาและภรรยาตัดสินใจเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ และต้องการนำทองคำที่ให้แม่ยายยืมไปขายเป็นทุนเริ่มต้น แต่เมื่อไปขอคืน กลับได้รับคำตอบที่ทำให้ทั้งคู่คาดไม่ถึง
แม่ยายตอบว่า “ทอง 5 บาทที่คนอื่นให้พวกเธอ แม่จะคืนให้ ส่วนทอง 5 บาทที่แม่ให้ในวันแต่งงาน แม่จะคืนเป็นเงินสดในราคาทองตอนนั้น” ซึ่งหมายความว่า มูลค่าที่จะได้รับต่ำกว่าปัจจุบันมาก เพราะราคาทองขึ้นสูงกว่าเดิมหลายเท่า
เมื่อเขามองภรรยา เห็นน้ำตาคลอเบ้า ก็เข้าใจว่าเธอทั้งเสียใจและรู้สึกอับอาย ส่วนตัวเขาเองก็สับสน จะพูดก็กลัวทำร้ายความรู้สึกภรรยา แต่ถ้าเงียบก็รู้สึกไม่สบายใจ
คืนนั้น เขาครุ่นคิดอยู่นาน จนเข้าใจว่าในสายตาแม่ยาย ทองคำคือ “ของขวัญจากแม่ให้ลูกสาว” ที่สามารถตีราคาได้ แต่สำหรับเขา มันคือ “สัญลักษณ์ของชีวิตคู่” และการคืนเพียงตามราคาทองเก่า ก็เหมือนลดคุณค่าความหมายของวันแต่งงานลง
ไม่กี่วันต่อมา เขาตัดสินใจชวนแม่ยายออกไปดื่มกาแฟ เพื่อพูดคุยอย่างสงบ เขาเอ่ยขึ้นว่า
- “ไม่ใช่ว่าผมโลภนะครับ แค่กลัวจะเกิดความเข้าใจผิด ถ้าแม่ไม่สะดวกคืนตอนนี้ ผมก็รอได้”
- แม่ยายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนถอนหายใจแล้วพูดว่า “แม่รู้ว่าแม่พูดไม่ถูก วันนั้นแม่ใจร้อน ขอแม่คิดดูก่อนนะ แล้วแม่จะคืนทองให้ครบ”
- เขายิ้มบาง ๆ แล้วตอบกลับไปเพียงสั้น ๆ ว่า “ขอบคุณนะแม่”
- คืนนั้น ภรรยากุมมือเขาไว้แล้วกระซิบว่า “ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันคงไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เหมือนคุณ”
ท้ายที่สุด เขาได้เรียนรู้ว่า ความสัมพันธ์ในครอบครัวมีค่ามากกว่าทรัพย์สินใด ๆ และการสื่อสารด้วยความเข้าใจสามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ แม้จะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนก็ตาม เพราะ “ครอบครัวไม่ใช่สนามรบ” เพียงทำให้หัวใจของแม่สงบ และทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสบายใจ ก็เพียงพอแล้ว
ข้อมูลจาก soha

ด.ช. 2 ขวบปาอิฐใส่งู จนจะโดนฉก ชิงจังหวะกัดก่อน สุดท้ายตายคาปาก

สาววัย 27 เล่าชีวิตที่คาดไม่ถึง หลังตัดสินใจมาอยู่บ้านพักคนชรา

แม่บ้านสาวลาออกไปแต่งงาน รู้กำพืดว่าพีก รู้ตัวเจ้าบ่าวพีกกว่า

ด่าแรงมาก "เจนนี่" ฟาดชาวเน็ตปากแจ๋ว ท้าจ่าย 10 ล้าน ถ้าทำคอนเทนต์
