ทช. ประกาศฉุกเฉินน้ำท่วม เปิด 7 เส้นทางเลี่ยงทั่วประเทศ

กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินน้ำท่วม แนะประชาชนตรวจสอบเส้นทางก่อนเดินทาง พร้อมเปิด 7 เส้นทางเลี่ยงในหลายจังหวัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กระทรวงคมนาคม ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจากเหตุ น้ำท่วม ที่ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมเปิดเผย 7 เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วม เพื่อให้ประชาชนใช้เดินทางอย่างปลอดภัย และแนะนำให้ตรวจสอบสภาพเส้นทางก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
7 เส้นทางเลี่ยงน้ำท่วมที่ ทช. แนะนำ
1. ร้อยเอ็ด: ถนนสาย รอ.4007 แยก ทล.2259 – บ้านสว่าง ใช้ทาง อบจ. ผ่านบ้านคำอุปราช ระยะทาง 7.2 กม.
2. นครสวรรค์: ถนนสาย นว.3119 แยก ทล.225 – ชุมชนเกาะยม ใช้ทางเลี่ยงระยะ 1.3 กม.
3. นครสวรรค์ (เพิ่มเติม): ถนนสาย นว.3102 แยก ทล.117 – บ้านเนิน ใช้เส้นทางท้องถิ่นระยะ 7.5 กม.
4. พิจิตร: ถนนสาย พจ.4011 แยก ทล.1289 – บ้านทุ่งอ่างทอง ใช้ถนน พจ.4042 เป็นทางเบี่ยง
5. พิจิตร: ถนนสาย พจ.5022 เชื่อมเทศบาลโพทะเล – บ้านบางพล้อ ใช้ถนน พจ.5044 ช่วยเลี่ยงจุดน้ำท่วม
6. พิจิตร: ถนนสาย พจ.4021 แยก ทล.1289 – บ้านไผ่ท่าโพใต้ ใช้ถนน พจ.021 และ ทล.1070 เป็นเส้นทางหลักแทน
7. อยุธยา: ถนนสาย อย.4055 แยก ทล.3267 – บ้านตาลเอน ใช้ ทล.347 และ อย.3052 เพื่อกลับเข้าสู่เส้นทางหลัก
นายพิชิต หุ่นศิริ รองอธิบดี กรมทางหลวงชนบท รักษาราชการแทนอธิบดีทช. ระบุว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งติดตั้งป้ายเตือนและป้ายบอกทางเลี่ยงในจุดที่ได้รับผลกระทบจาก น้ำท่วม
นอกจากนี้ ทช. ยังได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรเข้าพื้นที่ทันที หากเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ถนนหรือสะพานขาด รวมถึงเร่งเปิดเส้นทางกรณีมีต้นไม้หักโค่นกีดขวาง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน
กรมทางหลวงชนบทจะรายงานสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง และขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากช่องทางทางการของ ทช. หากพบเหตุอุทกภัยหรือต้องการแจ้งเหตุ สามารถติดต่อได้ที่ แขวงทางหลวงชนบททั่วประเทศ หรือ สายด่วน 1146