นายกฯ ขับเครื่องบินด่วน! จับมือ บก.จร. ทำภารกิจ "หัวใจติดปีก"

นายกฯ ขับเครื่องบินด่วน! จับมือ บก.จร. ทำภารกิจ "หัวใจติดปีก" อีกครั้ง รับหัวใจจากผู้บริจาค ส่งต่อการรักษา รพ.จุฬาฯ
5 ตุลาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางออกจาก Private Jet Terminal โดยนายกรัฐมนตรีขับเครื่องบินส่วนตัว พาทีมแพทย์นำโดย นพ.พัชร อ่องจริต อาจารย์ศัลยแพทย์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เดินทางไปยัง จ.อุดรธานี เพื่อมารับหัวใจจากผู้บริจาคเป็นชายอายุ 28 ปี ที่โรงพยาบาลอุดรธานี เพื่อส่งต่อการรักษายังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
เมื่อเครื่องบินส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีถึงสนามบินดอนเมืองในเวลา 20.03 น. นายกรัฐมนตรีได้เป็นผู้นำกล่องบรรจุอวัยวะหัวใจขึ้นรถตู้ของทางสนามบินมาถึงยังอาคารผู้โดยสารในเวลา 20.11 น. ส่งมอบให้กับ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุณภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร รับช่วงต่อพร้อมนำทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ เปิดทางจราจรนำอวัยวะหัวใจส่งผู้รับบริจาค ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ให้ทันเวลา ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองในเวลา 20.13 น. โดย ถึง รพ.จุฬาฯ ที่หมายในเวลา 20.28 น. ใช้เวลา 15 นาที จากสนามบินดอนเมืองถึงโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ภารกิจลุล่วง หัวใจดวงที่ 143 เต้นอีกครั้ง สมเจตนารมณ์ผู้บริจาคอวัยวะ ต่อลมหายใจให้เพื่อนมนุษย์
ภารกิจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “หัวใจติดปีก” ที่นายกรัฐมนตรีดำเนินการด้วยความสมัครใจและต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 โดยได้อาสาขับเครื่องบินส่วนตัวรับ-ส่งทีมแพทย์ในภารกิจลักษณะนี้มาแล้วกว่า 80 เที่ยวบิน ช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยกว่า 200 รายทั่วประเทศ โดยมีตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ สังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมสนับสนุนภารกิจอย่างใกล้ชิด ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกเส้นทางคุ้มกัน “หัวใจแห่งชีวิต” ให้ภารกิจลุล่วง อวัยวะให้ถึงมือทีมแพทย์อย่างปลอดภัย และรวดเร็วที่สุด
ภารกิจในครั้งนี้ ถือเป็น “หัวใจดวงที่ 143” ซึ่งมีความหมายพิเศษในตัวเลข “143” ที่สื่อถึงคำว่า I (1) Love (4) You (3) ในภาษาสากล หมายถึง “การมอบหัวใจด้วยความรัก” จากผู้บริจาคสู่ผู้รับ และจากหัวใจของผู้นำสู่ประชาชนทุกคน
ภารกิจ “หัวใจติดปีก” จึงไม่เพียงสะท้อนถึงความทุ่มเทของทีมแพทย์และหน่วยงานสาธารณสุข แต่ยังสะท้อนถึงความร่วมแรงร่วมใจของตำรวจทางหลวง ตำรวจจราจรในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเงียบงันแต่ทรงคุณค่า รวมถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนที่ร่วมมือเปิดทางให้รถฉุกเฉิน เพื่อให้ “หัวใจทุกดวง” เดินทางถึงปลายทางด้วยความปลอดภัย
ทั้งนี้ นอกจากอวัยวะหัวใจแล้ว ยังมีอวัยวะไต ที่ทีมแพทย์ผ่าออกมาจากร่างกายของผู้บริจาค พร้อมกันในคราวนี้ด้วย และทีมแพทย์นำส่งขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของท่านนายกรัฐมนตรี มาในคราวเดียวกัน และตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ได้นำส่งยังโรงพยาบาจุฬาลงกรณ์ ให้กับผู้รอรับบริจาคอวัยวะไต ได้อีก 1 ราย อีกด้วย
ที่มา : กองบัญชาการตำรวจนครบาล - บช.น. Metropolitan Police Bureau