คนใกล้ชิด อัปเดทอาการ "บิ๊กจิ๋ว" ป่วยติดเตียงเจาะคอ ต้องฟอกไต

คนใกล้ชิด อัปเดทอาการล่าสุด "บิ๊กจิ๋ว" ป่วยติดเตียงเจาะคอ ต้องฟอกไต ให้อาหารทางสายยาง อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
วันที่ 5 ตุลาคม นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และคนใกล้ชิด พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กอัปเดตอาการของ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ วัย 93 ปี ซึ่งปัจจุบันป่วยติดเตียงและพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ตึกภูมิสิริมังคลานุสรณ์
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ระบุว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับ พล.อ.ชวลิต ฯ ไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะนี้อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยตนได้เข้าเยี่ยมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ท่านป่วยติดเตียง ต้องเจาะคอ ฟอกไต และให้อาหารทางสายยาง
พร้อมกันนี้ นายชวลิต กล่าวถึงกรณีข่าวความขัดแย้งภายในครอบครัวของ พล.อ.ชวลิต ว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและไม่ควรยืดเยื้อ ขอให้ทุกฝ่ายยุติความขัดแย้งและไม่ฟ้องร้องกัน เพื่อเห็นแก่ผู้ป่วยซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของชาติ ที่อุทิศชีวิตเพื่อประเทศทั้งในสายราชการและการเมือง
นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้คำนึงถึงความเหมาะสม เนื่องจาก พล.อ.ชวลิต ฯ ป่วยหนักและไม่สามารถให้ข้อมูลใด ๆ ได้ จึงอยากให้หยุดนำเสนอเรื่องที่อาจสร้างความกระทบกระเทือนใจ
ในส่วนของนักวิจารณ์การเมืองบางรายที่มักกล่าวว่า พล.อ.ชวลิต ฯ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ทำให้เศรษฐกิจล่มในยุค “ต้มยำกุ้ง” นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ยืนยันว่า พล.อ.ชวลิต ไม่ได้เป็นต้นเหตุของวิกฤตดังกล่าว เพราะปัญหาทางเศรษฐกิจได้สะสมมาจากนโยบายการเงินการคลังเสรีในรัฐบาลก่อนหน้า โดยเฉพาะโครงการ BIBF ที่ไม่มีระบบควบคุมเพียงพอ รัฐบาล พล.อ.ชวลิต เพียงแต่เป็นผู้เผชิญหน้ากับวิกฤตที่ปะทุขึ้นในช่วงนั้นพอดี
ทั้งนี้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นอดีตผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็น “นายทหารประชาธิปไตย” เพราะเลือกลาออกจากราชการก่อนเกษียณถึง 5 ปี เพื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างสุจริต ในชีวิตราชการ ท่านมีผลงานสำคัญในการผลักดันนโยบาย “การเมืองนำการทหาร” จนเกิดคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 ที่ช่วยยุติความขัดแย้งระหว่างคนไทยได้อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ พล.อ.ชวลิต ยังมีบทบาทสำคัญด้านความมั่นคงของชาติ โดยเป็นหนึ่งในคณะนายทหารไทยที่เดินทางไปเจรจากับนายเติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำจีน เพื่อสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ในช่วงวิกฤตสงครามอินโดจีน ซึ่งมีผลให้เวียดนามถอนกำลังออกจากชายแดนไทย
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ทิ้งท้ายว่า ชีวิตของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ผ่านทั้งความสำเร็จและความผิดพลาด แต่สิ่งสำคัญคือผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ คนรุ่นหลังควรนำมาเป็นแบบอย่าง และขอให้คนในครอบครัวของท่านยึดความสามัคคีเป็นหลัก เพื่อให้ “บิ๊กจิ๋ว” ได้พักรักษาตัวอย่างสงบในช่วงบั้นปลายชีวิต