ชาวบ้านกัมพูชาไม่รื้อบ้าน ท้าคำสั่งไทย อ้างที่ดินบรรพบุรุษ 30 ปี

ชาวบ้านกัมพูชายืนกรานไม่รื้อบ้าน ท้าทายคำสั่งไทย อ้าง “ที่ดินบรรพบุรุษกว่า 30 ปี”

เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาร้อนระอุ หลังจากฝ่ายปกครองจังหวัดสระแก้วของไทยออกคำสั่งให้ชาวบ้านกัมพูชาในหมู่บ้านโชกเจย์และเปรยจัน รื้อถอนหรือทิ้งบ้านที่อยู่อาศัยมานานหลายสิบปีภายในเส้นตาย มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย ทว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีครัวเรือนใดยอมทำตามคำสั่ง

ชาวบ้านจำนวนมากยืนยันจะปกป้องที่ดินและบ้านเรือน แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต โดยบางส่วนเผยว่าบ้านเหล่านี้เป็น “แผ่นดินบรรพบุรุษ” ที่อยู่มาเกือบสามทศวรรษ ด้านรัฐบาลกัมพูชาประกาศยืนหยัดปกป้องพลเมืองและประณามไทยที่พยายามบังคับใช้กฎหมายฝ่ายเดียวในพื้นที่ซึ่งกัมพูชายืนยันว่าอยู่ภายใต้อธิปไตยของตน

สถานการณ์ยิ่งทวีความตึงเครียดเมื่อมีรายงานว่ากองทัพไทยเพิ่มการเคลื่อนไหวริมชายแดน ติดตั้งลวดหนาม ส่งกำลังพล อาวุธหนัก รวมถึงรถถังและรถหุ้มเกราะตรงข้ามหมู่บ้านโชกเจย์ ขณะที่พระสงฆ์และประชาชนกัมพูชาหลั่งไหลเข้าไปให้กำลังใจและสนับสนุนผู้ได้รับผลกระทบ

ที่ผ่านมา ครอบครัวชาวกัมพูชา 12 ครัวเรือนถูกทหารไทยบังคับให้ออกจากบ้านแล้ว โดย 6 ครอบครัว (22 คน) ในโชกเจย์ถูกไล่ออกเมื่อ 12 ส.ค. และอีก 6 ครอบครัว (37 คน) ในเปรยจันถูกบังคับให้ออกเมื่อ 13 ส.ค.

ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย อึม เรียทเรย์ เรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลงคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) และยุติการดำเนินการฝ่ายเดียวที่อาจทำให้ความขัดแย้งลุกลาม พร้อมระบุว่ากัมพูชาจะใช้ทุกมาตรการเพื่อคุ้มครองชีวิตและความมั่นคงของประชาชน
 

ที่มา@Khmer Times