ภัยเงียบที่ต้องระวัง สังเกตสัตว์เลี้ยงแบบไหนเข้าข่าย "โรคพิษสุนัขบ้า"

ภัยเงียบที่ต้องระวัง สังเกตสัตว์เลี้ยงแบบไหนเข้าข่าย "โรคพิษสุนัขบ้า"? ดูด่วน! โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) เป็นภัยเงียบที่ร้ายแรงถึงชีวิตทั้งต่อคนและสัตว์ การติดเชื้อนี้ไม่ได้แสดงอาการแค่ความดุร้าย
ภัยเงียบที่ต้องระวัง สังเกตสัตว์เลี้ยงแบบไหนเข้าข่าย "โรคพิษสุนัขบ้า"? ดูด่วน!
โรคพิษสุนัขบ้า (Rabies) เป็นภัยเงียบที่ร้ายแรงถึงชีวิตทั้งต่อคนและสัตว์ การติดเชื้อนี้ไม่ได้แสดงอาการแค่ความดุร้าย แต่ยังมีสัญญาณอื่น ๆ ที่เจ้าของต้องสังเกตให้ทันก่อนสายเกินแก้
มาดูกันว่า "หมาบ้า" หรือ "แมวบ้า" ที่ติดเชื้อไวรัสนี้ จะมีอาการเตือนอย่างไรในแต่ละระยะ เพื่อให้คุณหลีกเลี่ยงและรับมือได้อย่างถูกต้อง
3 ระยะสัญญาณเตือน "โรคพิษสุนัขบ้า" ที่ต้องจับตา
อาการของสัตว์ที่ติดเชื้อจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก (แบบดุร้ายและแบบซึม) และแสดงออกเป็น 3 ระยะ
1. ระยะเริ่มแรก (Prodromal Stage)
อารมณ์เปลี่ยน: สัตว์เลี้ยงที่เคยอ้อนอาจเริ่ม เก็บตัว ซึม หรือ หลบซ่อน สัตว์ที่เคยขี้อายอาจกล้าแสดงออกผิดปกติ
อ่อนเพลีย: มีไข้ เบื่ออาหาร ไม่ยอมกินน้ำ หรือกินอาหารลำบาก
คันผิดปกติ: สัตว์อาจ เลียหรือกัดบริเวณที่เคยถูกกัดอย่างซ้ำ ๆ แม้แผลจะหายแล้ว
2. ระยะตื่นเต้น/ดุร้าย (Furious Stage)
เป็นระยะที่อันตรายและสังเกตได้ชัดเจน กินเวลาประมาณ 1-7 วัน:
ก้าวร้าวรุนแรง: หงุดหงิดง่าย ไล่กัดคน สัตว์อื่น หรือสิ่งของ โดยไม่มีสาเหตุ
น้ำลายไหลยืด: น้ำลายไหลย้อย หรือมีฟองที่ปาก เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ในการกลืนเป็นอัมพาต ทำให้กลืนน้ำลายไม่ได้
หวาดกลัว: ไวต่อแสง เสียง หรือการสัมผัสเนื้อตัว
เสียงเปลี่ยน: เสียงเห่าหรือเสียงร้องจะแหบพร่า หรือเปลี่ยนไปจากเดิม
3. ระยะอัมพาต (Paralytic Stage)
เป็นระยะสุดท้ายที่นำไปสู่ความตาย (ในบางรายที่เข้าสู่ แบบซึม อาจไม่แสดงอาการดุร้าย แต่เข้าสู่ระยะนี้อย่างรวดเร็ว):
กล้ามเนื้ออ่อนแรง: เริ่มจากขาหลัง เดินเซ ไม่มีแรง ล้มแล้วลุกไม่ขึ้น
ขากรรไกรห้อย: ขากรรไกรล่างอ่อนแรง ทำให้ ปิดปากไม่ได้ หรือ ลิ้นห้อยแห้ง
เสียชีวิต: เมื่ออัมพาตลามไปยังกล้ามเนื้อที่ควบคุมการหายใจ สัตว์จะเสียชีวิตภายใน 2-4 วัน
สิ่งที่ต้องทำทันทีเมื่อสงสัยว่าสัตว์ติดเชื้อ
ห้ามเข้าใกล้/สัมผัสเด็ดขาด: เนื่องจากไวรัสอยู่ในน้ำลาย และอาจติดเชื้อสู่คนได้
กักบริเวณ: หากเป็นสัตว์เลี้ยงของคุณ ให้กักบริเวณไว้ในที่ปลอดภัยและสังเกตอาการอย่างน้อย 10 วัน
แจ้งเจ้าหน้าที่: รีบแจ้งปศุสัตว์อำเภอ หรือหน่วยงานควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าในพื้นที่ทันที
อย่าลืม การป้องกันที่ดีที่สุดคือการนำสัตว์เลี้ยงไป ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเป็นประจำทุกปี เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทั้งสัตว์เลี้ยงและทุกคนในบ้าน