นาทีชีวิต! ตำรวจจราจรนำส่งปอดผู้บริจาค เกิดอุบัติเหตุกลางกรุง

23 ก.ย.68 พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตำรวจจราจรทั่วประเทศ รวมถึงตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ มีภารกิจสำคัญในการนำส่งอวัยวะจากผู้บริจาคไปยังผู้ป่วย ซึ่งช่วยยื้อชีวิตได้จำนวนมาก โดยอาศัยความร่วมมือจากประชาชนที่เปิดทางให้รถฉุกเฉินเสมอ

เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2568 เวลา 12.28 น. เกิดเหตุรถแท็กซี่ฝ่าไฟแดง ขณะมีขบวนตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริเปิดสัญญาณฉุกเฉิน เพื่อนำส่ง “ปอด” จากจังหวัดชลบุรีไปยังโรงพยาบาลศิริราช ส่งผลให้เกิดการเฉี่ยวชนที่แยกสวนมิสกวัน ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ ทำให้ ด.ต.วัชรนนท์ คงสินจีราภัทร์ ผู้บังคับหมู่ งาน 3 กก.6 บก.จร. ได้รับบาดเจ็บที่ขาและข้อมือ แต่ยังรู้สึกตัว ส่วนรถพยาบาลที่บรรทุกอวัยวะไม่ได้รับความเสียหาย ภารกิจจึงสามารถดำเนินต่อและส่งอวัยวะถึงมือแพทย์ทันเวลา

พล.ต.ท.นิธิธร กล่าวย้ำว่า เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความสำคัญของ “ทุกเสี้ยววินาทีของรถฉุกเฉินคือเส้นทางแห่งชีวิต” การเปิดทางไม่ได้เพื่อความสะดวกของเจ้าหน้าที่ แต่คือโอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยที่รอการรักษา จึงขอให้ผู้ขับขี่ทุกคนตระหนักและเคารพกฎหมายจราจร เมื่อพบรถฉุกเฉินเปิดไฟหรือได้ยินเสียงไซเรน ต้องรีบชะลอและหลีกทางทันที

แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง คือ ตรวจเช็กระยะรถฉุกเฉินผ่านกระจกหลัง ชะลอรถและเบี่ยงซ้ายเปิดไฟสัญญาณ หากติดขัดไม่สามารถหลีกได้ให้หยุดรถเพื่อเปิดทาง และห้ามขับตามรถฉุกเฉินโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ การไม่หลบหรือกีดขวางรถฉุกเฉินถือว่าผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 76 มีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ส่วนการฝ่าไฟแดงมีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท