รู้จัก "ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" ลูกเขยทักษิณ ถูกจับตา แคนดิเดตนายกฯ คนต่อไป?

ในช่วงที่การเมืองไทยเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการแข่งขันสูง หนึ่งในชื่อที่ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงอย่างต่อเนื่องคือ “ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์” ลูกเขยคนโตของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และสามีของ พินทองทา ชินวัตร กระแสข่าวลือว่าเขาอาจถูกวางตัวเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย กำลังสร้างความสนใจและถกเถียงในสังคมออนไลน์ แม้จะยังไม่มีการยืนยันชัดเจน แต่ชื่อของเขาก็ถูกค้นหาอย่างล้นหลาม

 

ประวัติครอบครัวและชีวิตส่วนตัว

ณัฐพงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2523 ปัจจุบันอายุ 45 ปี เป็นบุตรของ นายวรวิทย์ และนางอัญชลี คุณากรวงศ์ ครอบครัวทำธุรกิจการ์เมนต์ส่งออกย่านประตูน้ำ ภายใต้บริษัท สินรุ่งเรืองการ์เมนท์ จำกัด เขาเติบโตมากับพี่น้อง 3 คน และเคยเป็นที่รู้จักในแวดวงไฮโซ ถึงขั้นได้รับเลือกเป็น “ขวัญใจไฮโซ” ในนิตยสารคลีโอ ปี 2550

 

เส้นทางความรักกับ พินทองทา ชินวัตร เริ่มต้นจากการเรียนต่อระดับปริญญาโทที่ ศศินทร์ จุฬาฯ ก่อนจะพัฒนาความสัมพันธ์จนเข้าพิธีวิวาห์เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2554 ปัจจุบันมีลูกด้วยกัน 3 คน ได้แก่ น้องเอมิ, น้องนานิ (ฝาแฝด) และ น้องวาคิณ

ด้าน ทักษิณ ชินวัตร เคยให้สัมภาษณ์ถึงลูกเขยว่า แม้ในตอนแรกไม่ได้รู้จักกันมากนัก แต่เมื่อได้เจอครั้งแรกที่ดูไบ ก็สัมผัสได้ทันทีว่าเป็นคนจิตใจดีและรักลูกสาวอย่างแท้จริง

การศึกษาและเส้นทางอาชีพ

ณัฐพงศ์จบปริญญาตรีด้าน สถาปัตยกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และต่อปริญญาโทด้าน บริหารธุรกิจ (MBA) ที่ DePaul University เมืองชิคาโก สหรัฐอเมริกา

 

เขาเริ่มต้นเส้นทางอาชีพในแวดวงอสังหาริมทรัพย์กับ อารียา พรอพเพอร์ตี้ และ เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ คอนซัลแทนท์ ก่อนจะร่วมหุ้นกับเพื่อนเปิดบริษัท ฟิชแมน จำกัด ในปี 2553 ทำธุรกิจที่ปรึกษาด้านการตลาดและพัฒนาอสังหาฯ จากนั้นยังได้ร่วมกับคุณพ่อเปิดบริษัท คูณ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด โดยมีโครงการแรกคือบูติกโฮเต็ลในย่านประตูน้ำ

ปัจจุบันเขาดำรงตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อาณาจักรอสังหาฯ ของตระกูลชินวัตร พร้อมทั้งบริหารและถือหุ้นในหลายบริษัทเครือข่าย

 

ชื่อที่ถูกพูดถึงในแวดวงการเมือง

บทบาทในฐานะ นักธุรกิจอสังหาฯ รุ่นใหม่ และ ลูกเขยของทักษิณ ทำให้ณัฐพงศ์ตกอยู่ในสปอตไลต์ทางการเมือง ถูกมองว่าอาจเป็น “ตัวเลือก” ที่พรรคเพื่อไทยจะดันขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต แม้เจ้าตัวยังไม่เคยประกาศท่าทีทางการเมืองชัดเจน แต่ก็ถูกสังคมจับตาว่าอาจกลายเป็นบุคคลสำคัญบนเวทีการเมืองไทยในไม่ช้า